ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานด้านการค้าและการลงทุนของทีมไทยแลนด์ ได้เปิดเผยตัวเลขด้านการลงทุนจากการทำงานของทีมไทยแลนด์ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่าองคาพยพด้านการลงทุนที่สำคัญ คือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โดยปี 2566 ในภาพรวม มีโครงการขอรับการส่งเสริม 2,307 โครงการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 16 และมูลค่าเงินลงทุน 848,318 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 43 ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา

สำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ถือเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ในประเทศไทย นำไปสู่การจ้างงานและการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีระหว่างบริษัทต่างชาติและผู้ประกอบการไทย ปี 2566 มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมจำนวน 1,394 โครงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 38 โดยมูลค่าเงินลงทุนรวม 663,239 ล้านบาทเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 72 หากพิจารณาประเทศที่มีมูลค่าการขอรับการส่งเสริมสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จีน 159,387 ล้านบาท สิงคโปร์ 123,385 ล้านบาท และสหรัฐอเมริกา 83,954 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า ประเทศจีนประเทศเดียว มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 25 ของเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั้งหมด สำหรับประเทศญี่ปุ่น มีมูลค่า 79,151 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 4 แต่นับว่ายังเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 60 จากปีก่อน นักลงทั้งทุนจากทั้งสี่ประเทศจึงมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทย

“นายกฯเศรษฐาได้มอบนโยบายให้ทีมไทยแลนด์ทุกคนร่วมกันทำงานเพื่อดึงเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เพื่อส่งผลกระทบเชิงบวกอย่างต่อเนื่องต่อระบบเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันกันเองในอุตสาหกรรมซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค และเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ในประเทศ เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์อีวี อุตสาหกรรม BCG ทำให้เกิดการจ้างงานในขณะเดียวกันรัฐบาลยังส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยสามารถลงทุนในต่างประเทศเพื่อสร้างเครือข่ายการผลิตของตนเอง และใช้สิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนไปเปิดตลาดใหม่ในประเทศเป้าหมาย” ผู้แทนการค้ากล่าวย้ำ