สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) มุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานการบริหาร ความเสี่ยงของอุตสาหกรรมประกันภัยไทยให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากล ผ่านแนวทางการบริหารความเสี่ยงแบบองค์รวม (Enterprise Risk Management – ERM) และการประเมินความเสี่ยงและความมั่นคงทางการเงินของบริษัท (Own Risk Solvency Assessment – ORSA)
โดยได้จัดการประชุมชี้แจงแนวทางการพัฒนา ERM – ORSA ขึ้นสำหรับภาคธุรกิจประกันชีวิตและภาคธุรกิจประกันวินาศภัย เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 ณ ห้องประชุมสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง สำนักงาน คปภ. (รัชดาภิเษก) กรุงเทพมหานคร
คุณอาภากร ปานเลิศ รองเลขาธิการด้านกำกับธุรกิจประกันภัย สำนักงาน คปภ. กล่าวถึงความสำคัญของการยกระดับ ERM-ORSA ว่า เป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมประกันภัยไทยที่ต้องปรับตัวให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่รวดเร็ว การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปเพื่อให้บริษัทประกันภัยสามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสะท้อนสถานะทางการเงินของบริษัทได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน
โดยสำนักงาน คปภ. ได้มอบหมายให้สายพัฒนามาตรฐานการกำกับ ซึ่งนำโดย ดร. อายุศรี คำบรรลือ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายพัฒนามาตรฐานการกำกับ เดินหน้านำแนวทางการจัดทำรายงาน ERM – ORSA มาใช้ และมีการปรับปรุงคุณภาพรายงาน ERM – ORSA ตั้งแต่ปี 2563 และได้รับความร่วมมือจากบริษัทประกันภัยเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม จากการทบทวนคุณภาพรายงานที่ได้รับพบว่า ยังมีโอกาสในการพัฒนาเพื่อให้รายงานสะท้อนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเสี่ยงและเงินกองทุนของบริษัทได้มากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการกำหนดระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (Risk Appetite) และขีดจำกัดความเสี่ยง (Risk Tolerance) ที่ต้องสามารถเชื่อมโยงกับกลยุทธ์ขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับประเด็นสำคัญที่สำนักงาน คปภ. มุ่งพัฒนา คือ การปรับปรุงรูปแบบการนำส่งข้อมูล จากเดิมที่เป็นไฟล์ PDF ไปสู่รูปแบบที่สามารถนำไปวิเคราะห์และตรวจสอบได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาในการประมวลผลข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ข้อมูลสำหรับการบริหารความเสี่ยงของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยร่วมกับสายตรวจสอบของสำนักงาน คปภ. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบและการใช้ข้อมูลเชิงลึก เพื่อเพิ่มความแม่นยำและความสอดคล้องของการตรวจสอบรายงาน ERM – ORSA กับมาตรฐานสากล
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้บริษัทประกันภัยบันทึกข้อมูลที่สำคัญ เช่น ตัวชี้วัดความเสี่ยงหลัก (Key Risk Indicators) และผลการทดสอบภาวะวิกฤติ (Stress Test) ในรูปแบบที่สามารถนำไปวิเคราะห์ได้อย่างเป็นระบบ
“สำนักงาน คปภ. ตระหนักดีว่าการพัฒนามาตรฐาน ERM – ORSA ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเป้าหมายสูงสุดของแนวทางนี้ ไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามกฎระเบียบเท่านั้น แต่เพื่อให้บริษัทสามารถใช้ ERM – ORSA เป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพทางการเงิน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจและประชาชนในระยะยาว
ด้วยแนวทางดังกล่าว สำนักงาน คปภ. คาดหวังว่าการยกระดับ ERM – ORSA ในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัยไทยอย่างยั่งยืน พร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ผู้ช่วยเลขาธิการ สายพัฒนามาตรฐานการกำกับ กล่าวในตอนท้าย
