Home » อว. กระตุ้นผปก.นวัตกรรม หนุนการเงินรูปแบบใหม่

อว. กระตุ้นผปก.นวัตกรรม หนุนการเงินรูปแบบใหม่

โดย กองบรรณาธิการ
113 views

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA และกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) เปิดตัว “กลไกการสนับสนุนด้านเงินรูปแบบใหม่” สำหรับผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม จากความร่วมมือของแหล่งทุนภาครัฐและเอกชน

ทั้งนี้ เพื่อสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับสตาร์ทอัพไทยในระยะเริ่มต้นและระยะเติบโตให้สามารถพัฒนาต้นแบบและขยายผลสู่เชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีงบอุดหนุนจากภาครัฐและเอกชนรวมกว่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างให้เกิดมูลค่าของธุรกิจนวัตกรรมกว่า 1,000 ล้านบาท รวมถึงการผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นประเทศแห่งนวัตกรรม

นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า กระทรวง อว. ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรม และเชื่อมั่นว่าการที่นวัตกรรมจะเดินหน้าอย่างก้าวกระโดดนั้นต้องอาศัยความเข้มแข็งของภาคเอกชน โดยมีภาครัฐเป็นกองหนุนที่สำคัญจึงนับเป็นโอกาสดีที่ได้เห็นความร่วมมือของ NIA และสํานักงานปลัดกระทรวง อว. (สป.อว.) โดย TED Fund ในการพัฒนากลไกการเงินรูปแบบใหม่ นั่นคือ “กลไกการสนับสนุนเงินทุนอุดหนุนสมทบสำหรับผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากความร่วมมือของแหล่งทุนภาครัฐและเอกชน”

เป็นกลไกการเงินแห่งแรกที่เชื่อมต่อแหล่งเงินทุนของภาครัฐและเอกชนเพื่อเร่งธุรกิจนวัตกรรมไทยให้สามารถขยายผลเชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีงบทุนอุดหนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนรวมกว่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างให้เกิดมูลค่าของธุรกิจนวัตกรรมกว่า 1,000 ล้านบาท ผ่าน 3 แนวทาง ได้แก่

1) เร่งการเติบโตในการลงทุนทางนวัตกรรมเชื่อมกับการใช้ประโยชน์จากงานวิจัย

2) กระตุ้นกิจกรรมด้านการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมจากตลาดทุนทางเทคโนโลยี

3) เพิ่มจำนวนวิสาหกิจฐานนวัตกรรมที่พร้อมเข้าสู่แหล่งเงินทุนจากภาคเอกชนเพื่อการปฏิรูปโครงสร้างทางธุรกิจ

โดยมุ่งสนับสนุนให้ประเทศไทยมีการสร้างสรรค์ พัฒนา ต่อยอด “ธุรกิจนวัตกรรม” ที่สร้างคุณค่าและประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ส่งผลต่อการผลักดันอันดับดัชนีนวัตกรรมโลก (GII) ของประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็น “ประเทศแห่งนวัตกรรม” ต่อไป

นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. และประธานกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรมกล่าวว่าโครงการ TED Matching Fund ดำเนินการขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการบนฐานเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพิ่มจำนวนผู้ประกอบธุรกิจรุ่นใหม่ในประเทศ ตลอดจนเป็นตัวเร่งสำคัญที่จะเพิ่มปริมาณการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และร่วมมือกับภาคเอกชนในการร่วมลงทุนช่วยเสริมความแข็งแกร่งกลไกของทุนนี้ พร้อมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยฐานนวัตกรรม

ในปีงบประมาณ 2567 นี้ TED Fund จะร่วมสนับสนุนทุนอุดหนุนสมทบกำหนดเงื่อนไขการส่งคืนเมื่อโครงการประสบความสำเร็จเชิงพาณิชย์ (Recoverable Grant) ซึ่งการสนับสนุนจากฝั่งภาครัฐนั้นสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อโครงการ โดยงบประมาณการร่วมลงทุนจากภาครัฐจะมาจาก 2 หน่วยงาน คือ TED Fund (5 ล้านบาท) และ NIA (5 ล้านบาท)

ผู้ขอรับการสนับสนุนทุนจะต้องได้รับการร่วมลงทุนและการพัฒนาธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากผู้ร่วมลงทุนภาคเอกชนที่ขึ้นทะเบียนกับ “TED Fund” เป็นจำนวนเงินไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่าโครงการ ซึ่งผู้ขอรับทุนจะมีระยะเวลาการดำเนินโครงการไม่เกิน 5 ปี และเมื่อดำเนินโครงการประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ตามตัวชี้วัดของโครงการที่วางไว้ ผู้รับทุนต้องส่งคืนเงินตามมูลค่าที่ได้รับการสนับสนุนให้ TED Fund พร้อมดอกเบี้ย (ไม่เกินร้อยละ 5) เพื่อนำไปสนับสนุนผู้ประกอบการรายอื่นต่อไป

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า จาก 6 ความท้าทายในการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพของไทย ได้แก่ 1) สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ซับซ้อนและไม่เอื้อต่อการทำธุรกิจ 2) กลุ่มผู้มีความสามารถยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะสาขาเทคโนโลยีเกิดใหม่ 3) กรอบความคิดทางธุรกิจนวัตกรรมที่สนใจทำธุรกิจนวัตกรรมแต่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น 4) โครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการเกิดธุรกิจนวัตกรรมเข้าถึงยากและไม่เพียงพอ 5) การสนับสนุนจากรัฐบาลไม่สอดคล้องต่อเนื่องกัน และ 6) การเข้าถึงเงินทุนโดยเฉพาะเงินทุนระยะเริ่มต้นและระยะเติบโตสำหรับสตาร์ทอัพไทยมีจำกัด

ประเด็นเหล่านี้ทำให้เกิดความร่วมมือในการเปิดกลไกการสนับสนุนเงินทุนอุดหนุนรูปแบบใหม่ “Corporate co-funding” ในวันนี้ เนื่องจากการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพมักมีความเสี่ยงสูง และบ่อยครั้งประสบปัญหาด้านการเงินสำหรับการต่อยอดผลงานและการขยายธุรกิจ กลุ่มนักลงทุนส่วนใหญ่สนใจแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพขนาดใหญ่ที่พร้อมสร้างกำไรอย่างรวดเร็ว

กลไกการสนับสนุนนี้นอกจากจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนแล้ว ยังช่วยเร่งจำนวนผลงานวิจัยที่ออกสู่เชิงพาณิชย์ให้เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่ออันดับดัชนีนวัตกรรมโลก (GII) ของประเทศไทยอีกด้วย โดยทุนดังกล่าวจะสนับสนุนผู้ประกอบการร่วมกันระหว่างแหล่งเงินทุนภาครัฐและเอกชนรวมโครงการละกว่า 20 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขส่งเงินอุดหนุนของภาครัฐคืนเมื่อประสบความสำเร็จเชิงพาณิชย์

สำหรับในปีงบประมาณ 2567 นี้ NIA ได้รับเงินจัดสรรจาก สกสว. ในการดำเนินการสนับสนุนผู้ประกอบการร่วมกับ TED Fund จำนวนหน่วยงานละ 50 ล้าน ทำให้มีวงเงินสนับสนุนจากแหล่งเงินทุนภาครัฐ 100 ล้านบาท

รศ. ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวว่า ปัจจุบันสตาร์ทอัพส่วนใหญ่อยู่ในระยะเริ่มต้น ซึ่งมีค่าใช้จ่ายจำนวนมากแต่มีรายได้จำกัด ทำให้ไม่สามารถพัฒนาตัวเองให้หลุดพ้นจากหุบเขามรณะ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการเร่งผลักดัน และสร้างปัจจัยที่เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมระบบการเงินนวัตกรรมที่เอื้อต่อการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากระยะเริ่มต้นให้เข้าสู่ระยะการเติบโตและต่อยอดการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สนใจขอรับการสนับสนุนทุนในโครงการ TED Matching Fund สามารถติดตามประกาศข่าวสารการเปิดรับสมัครได้ที่ www.tedfund.mhesi.go.th

You may also like

The-Perspective แหล่งรวมองค์ความรู้ มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ เกาะติดข่าวสารคาดการณ์อนาคต

Tel:  081-619-9494
Email:
editor@the-perspective.co
naiyanaone@gmail.com

Total Visit:

N/A

Editors' Picks

Latest Posts

The-Perspective © All Right Reserved.

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเก็บข้อมูลและรวบรวมสถิติวิจัยทางด้านการตลาด การวิเคราะห์แนวโน้ม ตลอดจนนำมาปรับปรุง และควบคุมการทำงานของเว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอม ท่านยังสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้ปกติ ยอมรับทั้งหมด