คุณณชนกช์ ปัญญาหิตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลดีเอ็นลักซ์ ลิฟวิ่งส์ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัท เบิร์กลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (Berkeley Group Holdings plc) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และผู้สร้างบ้านชั้นนำจากประเทศอังกฤษ ที่มีเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ในลอนดอน และเขต South East ของอังกฤษเปิดตัวโครงการใหม่
ภายใต้ชื่อ “TRILLIUM” London W2, Zone 1 บนทำเลศักยภาพ ย่าน Prime Central London รองรับความต้องการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม ย่านใจกลางกรุงลอนดอน เพื่อการลงทุน และอยู่อาศัย โดยมีราคาเริ่มต้น 675,000 ปอนด์ หรือ 28.6 ล้านบาท การพัฒนาโครงการมุ่งเน้นสร้างชุมชนที่ยั่งยืน และตอบสนองสังคมสมัยใหม่ ที่ให้ความสำคัญในการออกแบบและพัฒนาโครงการที่เน้นคุณภาพด้านการก่อสร้าง
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีแบรนด์ในเครือหลายแบรนด์ที่เน้นพัฒนาตลาดเฉพาะ เช่น Berkeley Homes, St George, St James, St Edward, St William และ St Joseph เน้นการพัฒนาโครงการบ้านพักอาศัยหรูหราไปจนถึงพื้นที่อุตสาหกรรมที่ปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่อยู่อาศัย และให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมที่มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
คุณฌอน บาร์เร็ตต์ กรรมการผู้จัดการ และ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ฟายน์ แอนด์ คันทรี กล่าวถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษมองว่าในปี 2568 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าราคาอสังหาริมทรัพย์อาจปรับตัวขึ้นประมาณ 2-4% หากเศรษฐกิจอังกฤษฟื้นตัวและธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
สถานการณ์ดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของผู้ซื้อและนักลงทุน โดยเฉพาะในย่านใจกลางเมือง ซึ่งเป็น ย่านธุรกิจสำคัญใกล้ระบบขนส่งมวลชน และมีส่วนสนับสนุนความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อ Real Demand ในกลุ่มคนทำงาน – นักศึกษาต่างชาติ และนักลงทุน (Investor) แถบเอเชียและตะวันออกกลาง ที่ให้ความสนใจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับหรู (luxury property) โดยเฉพาะโครงการเพื่อการลงทุน

ด้านคุณนาเน็ต ฮวง หัวหน้าฝ่ายขาย เซนต์เอ็ดเวิร์ด โฮม บริษัท เบิร์กลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวถึงศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการ “TRILLIUM” LONDON W2 Zone 1 ซึ่งอยู่ในย่าน West End ใจกลางกรุงลอนดอน หรือ ลอนดอน โซน 1 (London Zone 1) ถือเป็นย่านที่คนไทยคุ้นชิน รายล้อมด้วยแลนด์มาร์คที่สำคัญ เป็นย่านที่มีความต้องการสูง
ทั้งกลุ่มลูกค้าซื้อเพื่อการลงทุน (Investor) และซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง (Real Demand) เพราะสามารถเดินทางไปยังถนนอ็อกซ์ฟอร์ด มีแหล่งสถานศึกษามหาวิทยาลัยชั้นนำของกรุงลอนดอน เช่น London Business School เป็นต้น ซึ่งเป็นโซนที่ต้องการของกลุ่มผู้ซื้อทั้งในลอนดอน และต่างประเทศ
สำหรับโครงการ TRILLIUM London W2, Zone 1 ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการทั้งหมด 3 ไร่ จำนวน 3 อาคาร รวมทั้งหมด 556 ยูนิต แบ่งออกเป็นแบบ Manhattan, 1-3 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 40 – 109 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น £675,000 หรือ 28.6 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในปี 2028 ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
คุณแคเรน เจีย ผู้อำนวยการภูมิภาค เอเซีย ตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เบิร์กลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวถึงด้านกลยุทธ์ทางการตลาด ว่า บริษัทให้ความสำคัญทำการตลาดเชิงรุกในต่างประเทศ เน้นการขายโครงการให้กับลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนจากเอเชียตะวันออกกลางผ่านการจัดโรดโชว์และงานนิทรรศการในต่างประเทศและการร่วมมือกับตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วโลก