Home » กรุงเทพประกันภัยเสริมเกราะความมั่นคง เพิ่มวงเงินประกันภัยต่อสูงสุด 8,000 ล้าน เดินหน้าบริหารความเสี่ยงเชิงรุก

กรุงเทพประกันภัยเสริมเกราะความมั่นคง เพิ่มวงเงินประกันภัยต่อสูงสุด 8,000 ล้าน เดินหน้าบริหารความเสี่ยงเชิงรุก

โดย Reporter 1
383 views

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH และ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยปี 2568 ว่าเป็นปีแห่งความท้าทายจากหลายปัจจัย ทั้งหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง กำลังซื้อที่ลดลง ค่าเงินบาทแข็ง และแรงกดดันจาก China Shock ที่ทำให้ผู้ประกอบการ SMEs เผชิญการแข่งขันอย่างหนัก ขณะเดียวกันอัตราเงินเฟ้อยังอยู่เพียง 0.1% ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายที่ 2% ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเคลื่อนไหวช้ากว่าที่ควร โดยคาดว่า GDP ปีนี้จะขยายตัวเพียงราว 2% และอุตสาหกรรมประกันภัยเติบโตอยู่ในกรอบ 1.5–2.5%

กรุงเทพประกันภัยจึงปรับทิศทางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง แม้เบี้ยประกันภัยรับรวมปีนี้อาจไม่ขยายตัวตามเป้า แต่ยังคงรักษา “คุณภาพผลประกอบการ” เป็นหลัก คาดว่ากำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานจะอยู่ในระดับใกล้เคียงปีก่อน พร้อมเสริมโครงสร้างความมั่นคงผ่านการบริหารความเสี่ยงเชิงรุกและการจัดพอร์ตที่สมดุล

แรงส่งครึ่งปีหลังมาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ เช่น โครงการคนละครึ่งพลัส และการเดินหน้าเมกะโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ซึ่งช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและการลงทุน เพิ่มโอกาสขยายเบี้ยในกลุ่มประกันภัยทรัพย์สินและศูนย์ข้อมูล (Data Center) โดยยังคงยึดแนวทาง “ไม่แข่งขันด้านราคา” แต่ชูจุดแข็งด้านคุณภาพ บริการ และเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ลูกค้ายุคดิจิทัล

แกนสำคัญของความแข็งแกร่งคือระบบ “ประกันภัยต่อแบบไม่เป็นสัดส่วน (Non-Proportional)” ซึ่งใช้รองรับความเสี่ยงมหันตภัยในประเทศ เช่น แผ่นดินไหว อาคารถล่ม ถนนทรุด และน้ำท่วม เดิมบริษัทซื้อความคุ้มครองไว้ที่ 5,000 ล้านบาท แต่หลังเหตุแผ่นดินไหวเมื่อต้นปี ได้เพิ่มวงเงิน “Top-Up” เป็น 8,000 ล้านบาท ถือว่าสูงสุดในอุตสาหกรรม เพื่อรองรับภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

นอกจากการเพิ่มวงเงินคุ้มครองแล้ว ยังมีการซื้อ “Back-Up” เพิ่มอีก 300 ล้านบาทในสัญญาเดิม เพื่อคุ้มครองกรณีเกิดเหตุซ้ำซ้อนในชั้นมหันตภัย เพราะในสัญญา Non-Proportional สามารถเคลมได้หนึ่งครั้ง หากเกิดเหตุครั้งที่สองจะต้องซื้อ Back-Up ใหม่ เพื่อป้องกันความเสี่ยงสะสม โดยเฉพาะภัยน้ำท่วมที่ยังคงเป็นความกังวลหลักของประเทศ

กรุงเทพประกันภัยวางระบบบริหารความเสี่ยงด้วยจุดคงที่ความรับผิด (Retention) ที่ 100 ล้านบาท ก่อนกระจายภาระไปยังผู้รับประกันภัยต่อในแต่ละชั้น ทำให้สามารถควบคุมความผันผวนของผลประกอบการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาเสถียรภาพทางการเงินแม้ในสภาวะเศรษฐกิจอ่อนแรง

เหตุแผ่นดินไหวเมื่อต้นปีเป็นตัวอย่างของการจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ โดยบริษัทมีโครงสร้างประกันภัยต่อครอบคลุมกว่า 95% ของมูลค่าความเสียหาย ทำให้รับภาระโดยตรงเพียงประมาณ 100 ล้านบาท ขณะที่ส่วนที่เหลือถ่ายโอนไปยังผู้รับประกันภัยต่อทั้งหมด

ในกรณีถนนสามเสนทรุดตัว กรุงเทพประกันภัยเข้าร่วมรับประกันภัยโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงในสัดส่วน 40% และจัดสรรประกันภัยต่อไว้มากกว่า 99% ปัจจุบันอยู่ระหว่างประเมินความเสียหายทั้งในส่วนทรัพย์สินบุคคลภายนอกและโครงสร้างโครงการ คาดว่าผลกระทบต่อผลประกอบการจะไม่เกิน 1% ของมูลค่าความเสียหายทั้งหมด

แม้ตลาดรถยนต์ไทยครึ่งปีแรกเติบโต 4–5% โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มียอดจดทะเบียนใหม่กว่า 200,000 คัน แต่กรุงเทพประกันภัยยังคงดำเนินกลยุทธ์อย่างรอบคอบ โดยเลือกขยายพอร์ต EV ในสัดส่วนเพียง 3.7% ของตลาด หรือประมาณ 10,000 คันเท่านั้น เพื่อคงสมดุลด้านคุณภาพและการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ขณะที่พอร์ตประกันภัยรถยนต์มีสัดส่วนราว 8% ของรายได้รวมของบริษัท มุ่งเน้นการคัดเลือกลูกค้าที่มีความเสี่ยงอยู่ในระดับควบคุมได้ ท่ามกลางการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงและต้นทุนเคลมที่ยังทรงตัวในระดับสูง

ฝั่งธุรกิจองค์กร คาดว่าเบี้ยประกันภัยจะขยายจากกลุ่มเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาล โครงสร้างพื้นฐาน และโครงการ Data Center ที่กำลังลงทุนเพิ่มในไทย ส่งผลให้เบี้ยประกันภัยรวมทั้งปีอยู่ราว 32,500 ล้านบาท เติบโตประมาณ 3% โดยยังคงยึดแนวทางพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความพึงพอใจของลูกค้า

ด้านการลงทุน บริษัทให้น้ำหนักกับเงินฝากและตราสารหนี้คุณภาพสูงเป็นหลัก ควบคู่กับการลงทุนในหุ้นพื้นฐานแข็งแรงเพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาวอย่างสมดุล สะท้อนแนวทางการเติบโตแบบระมัดระวังและยั่งยืน

ในระดับมหภาค เศรษฐกิจไทยยังเผชิญกับปัญหากำลังซื้อที่อ่อนแรงและเงินเฟ้อต่ำมาก ทำให้การขยายตัวของภาคธุรกิจโดยรวมจำกัด อุตสาหกรรมประกันภัยครึ่งปีแรกขยายตัวราว 3% แต่ทั้งปีคาดว่าไม่เกิน 2% การเน้นบริหารความเสี่ยงรอบด้านจึงกลายเป็น “กลยุทธ์การอยู่รอด” ที่แท้จริงในปีนี้

สำหรับปี 2569 กรุงเทพประกันภัยตั้งเป้าเติบโต 5–6% อาศัยแรงหนุนจากเมกะโปรเจ็กต์ การลงทุนจากต่างประเทศ และภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยยังคงยึดแนวทาง “เติบโตอย่างมีดุลยภาพ” บนพื้นฐานของความมั่นคงทางการเงิน

ธุรกิจในกัมพูชายังคงดำเนินงานตามปกติ แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ยังสามารถบริหารต้นทุนและรักษาผลประกอบการให้อยู่ในระดับที่มั่นคง

ในส่วนของแนวนโยบายควบคุมค่ายาในโรงพยาบาลเอกชน หากดำเนินการได้จริงจะเป็นประโยชน์ต่อระบบโดยรวม แต่ควรคำนึงถึงคุณภาพของยาและกระบวนการเบิกจ่ายประกันภัยที่ต้องแยกส่วนค่ารักษาและค่ายา เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนและเพิ่มภาระการจัดการ

เส้นทางของกรุงเทพประกันภัยในปีนี้สะท้อนชัดว่า “ความมั่นคงไม่ได้เกิดจากการเติบโตเร็ว แต่เกิดจากการวางระบบที่รอบคอบและมองไกล” ด้วยวินัยการบริหารความเสี่ยงระดับสูงสุดในประเทศ การเพิ่มวงเงินประกันภัยต่อเป็น 8,000 ล้านบาท และการยึดหลักบริการที่เชื่อถือได้ ทำให้องค์กรยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงท่ามกลางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง และเป็นหลักประกันความเชื่อมั่นให้กับสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง

You may also like

The-Perspective แหล่งรวมองค์ความรู้ มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ เกาะติดข่าวสารคาดการณ์อนาคต

Tel:  081-619-9494
Email:
editor@the-perspective.co
naiyanaone@gmail.com

Total Visit:

320,850

320,850

Editors' Picks

Latest Posts

The-Perspective © All Right Reserved.

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเก็บข้อมูลและรวบรวมสถิติวิจัยทางด้านการตลาด การวิเคราะห์แนวโน้ม ตลอดจนนำมาปรับปรุง และควบคุมการทำงานของเว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอม ท่านยังสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้ปกติ ยอมรับทั้งหมด