Braze, Inc. (NASDAQ:BRZE) คือบริษัทด้านแพลตฟอร์มการเชื่อมต่อกับลูกค้าชั้นนำ ที่กำลังสร้างความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม MarTech (Marketing Technology) ด้วยมูลค่าตลาดกว่า 3.07 พันล้านดอลลาร์ และอัตราการเติบโตของรายได้ปีต่อปีที่ 22.16% Braze จึงกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่นักวิเคราะห์และนักลงทุนให้ความสนใจในตลาดมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แห่งนี้

ผลประกอบการล่าสุดที่โดดเด่น

• รายได้ไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 162.1 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 19.6% จากปีก่อนหน้า
• รายได้จากการสมัครสมาชิกโต 19% อยู่ที่ 154.9 ล้านดอลลาร์
• อัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 68.79%
• แม้ว่ายังไม่ทำกำไรสุทธิในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา แต่มีการคาดการณ์ว่าจะเริ่มมีกำไรในปีนี้
• EPS อยู่ที่ $0.07 สูงกว่าที่คาดไว้ และอัตรากำไรจากการดำเนินงานแบบไม่ใช่ GAAP อยู่ที่ 1.8%
• ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 2,342 ราย โดยมีลูกค้าที่สร้างรายได้ประจำเกิน $500,000 ถึง 262 ราย (โต 24% YoY)

กลยุทธ์และโฟกัสด้าน AI

Braze มุ่งเน้นการใช้ AI เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ผ่านโครงการ Project Catalyst และการเข้าซื้อกิจการ OfferFit ซึ่งเป็นบริษัทด้านเครื่องมือ AI ตัดสินใจอัตโนมัติ

เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ได้แก่:

• BrazeAI Decisioning Studio: ปรับแต่งประสบการณ์ลูกค้าด้วย AI
• BrazeAI Operator: สื่อสารผ่านภาษาแบบธรรมชาติ
• BrazeAI Agent Console: สร้างเอเจนต์ AI แบบเฉพาะตัว

นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยให้ Braze แตกต่างจากโซลูชันที่ล้าสมัย และเสริมความแข็งแกร่งใน MarTech ที่เปลี่ยนแปลงเร็ว

ตำแหน่งในตลาดและการแข่งขัน

• Braze ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในการแทนที่ซอฟต์แวร์เดิมในองค์กร
• ความสามารถในการเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีอย่าง Snowflake, Kafka และ MongoDB คือจุดแข็งใหญ่
• กลยุทธ์ เช่น การให้ทดลองใช้ฟรีและระบบเครดิตเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเก่า
• อัตราการรักษาฐานลูกค้า (Net Retention Rate) ล่าสุดอยู่ที่ 109% แม้ชะลอเล็กน้อย

แนวโน้มอนาคตและการเติบโต

• คาดการณ์รายได้ทั้งปีไว้ที่ 702-706 ล้านดอลลาร์ (รวมผลของการซื้อกิจการ OfferFit)
• อย่างไรก็ตาม กำไรจากการดำเนินงานแบบปรับลดลง 20 ล้านดอลลาร์ จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการซื้อกิจการและลงทุนต่อเนื่อง
• หลายฝ่ายยังมองว่า Braze มีศักยภาพในการครองตลาดขนาดใหญ่ ด้วยโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลแบบ First-party และการประมวลผลแบบ Real-time

ความเสี่ยง (Bear Case)

• งบการตลาดมักถูกตัดก่อนในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งส่งผลตรงต่อความต้องการใช้งาน Braze
• การลดลงของอัตราการรักษาลูกค้าอาจเป็นสัญญาณถึงแรงกดดันจากภายนอก
• การแข่งขันจากผู้เล่นด้าน AI รายใหม่ๆ รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Microsoft, OpenAI ที่อาจพัฒนาโซลูชันแบบครบวงจรและราคาถูกกว่า

โอกาส (Bull Case)

• การลงทุนใน AI อย่างต่อเนื่อง อาจช่วยยกระดับการมีส่วนร่วมของลูกค้าและเพิ่มอัตราการใช้บริการ โดยเฉพาะเมื่อธุรกิจต่างๆ เน้นโซลูชันที่ใช้ข้อมูลจริงและตอบสนองแบบเรียลไทม์
• Braze ถูกจับตามองในฐานะสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ ที่น่าซื้อกิจการสำหรับบริษัทเทคโนโลยีใหญ่อย่าง Salesforce, Adobe, SAP หรือ Microsoft
• หากถูกเข้าซื้อกิจการ Braze จะได้ทรัพยากรเพิ่มเติม ขยายตลาด และเร่งพัฒนา AI ต่อไป

วิเคราะห์ SWOT

จุดแข็ง (Strengths):

• แพลตฟอร์มเชื่อมต่อกับลูกค้าที่มีความแตกต่าง
• ความสามารถด้าน AI ที่ก้าวหน้า
• รายได้เติบโตต่อเนื่อง
• ดึงดูดลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ได้ดี

จุดอ่อน (Weaknesses):

• รายได้ขึ้นอยู่กับงบการตลาด
• การชะลอของ Net Retention Rate
• ผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้นหลังการซื้อกิจการ

โอกาส (Opportunities):

• ตลาดกลุ่มเป้าหมายที่ใหญ่มาก (30,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2028)
• โอกาสความร่วมมือหรือการเข้าซื้อกิจการจากรายใหญ่
• ความต้องการโซลูชันข้อมูลแบบ First-party เพิ่มขึ้นจากกฎหมายความเป็นส่วนตัว

ความเสี่ยง (Threats):

• การแข่งขันในอุตสาหกรรม MarTech รุนแรง
• ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
• ความเร็วในการพัฒนาเทคโนโลยี AI อาจลดความได้เปรียบ
• นโยบายด้านข้อมูลและความเป็นส่วนตัวที่เปลี่ยนแปลง

ราคาเป้าหมายจากนักวิเคราะห์ (Analyst Price Targets)

เป้าหมายราคาที่แตกต่างกันสะท้อนมุมมองที่หลากหลายของนักวิเคราะห์ บางรายประเมินอนาคตอย่างระมัดระวัง ขณะที่บางเจ้ามองว่ายังมี Upside สูง

สรุป

Braze โดดเด่นในตลาด MarTech