เซี่ยงไฮ้ เมืองที่ใครๆ ก็ว่าทันสมัย เป็นศูนย์กลางแฟชั่นและธุรกิจของจีน แต่สำหรับผม เซี่ยงไฮ้มีอะไรที่มากกว่าตึกสูงระฟ้าและแสงสี เรื่องจริงคือมันยังมีมุมที่ซ่อนอยู่ มีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนเคยไปแล้วเท่านั้นถึงจะรู้ ผมอยากจะมาบอกเล่าประสบการณ์ของผม เคล็ดลับที่ใช้แล้วเวิร์ค เพื่อให้คุณได้สัมผัสเซี่ยงไฮ้ในแบบที่ “ไม่มีใครเคยบอก” รับรองว่าทริปของคุณจะสนุกและแตกต่างออกไปแน่นอน
1. Dianping เพื่อนซี้ตัวจริงถ้าอยากกินอาหารอร่อย
ถ้ามาเซี่ยงไฮ้แล้วอยากกินอาหารอร่อยแบบคนท้องถิ่น ไม่ใช่แค่ร้านที่นักท่องเที่ยวแห่กันไป แอป Dianping (大众点评) คือเพื่อนซี้ที่ห้ามลืมโหลดเลยครับ มันไม่ใช่แค่แอปหาร้านอาหารทั่วไปนะ แต่มันคือสารานุกรมร้านอาหารแบบละเอียดสุดๆ คุณจะเจอตั้งแต่ร้านสตรีทฟู้ดเล็กๆ ไปจนถึงร้านหรูหรา และที่สำคัญคือมีรีวิวจากคนจีนจริงๆ ให้ดูเยอะมาก ทำให้รู้เลยว่าร้านไหนอร่อย ร้านไหนควรเลี่ยง ทีเด็ดคือคุณสามารถ จองคิวหรือสั่งอาหารล่วงหน้า ผ่านแอปได้เลยครับ ในเมืองที่ร้านดังๆ คิวยาวเหยียด การจองไว้ก่อนคือการประหยัดเวลาอันมีค่ามหาศาล ผมใช้ Dianping ค้นหาร้านอร่อยๆ ที่อยู่ใกล้จุดท่องเที่ยวแต่ละจุด สะดวกสุดๆ แล้วสั่งอาหาร Top1-3 ที่เขาแนะนำได้เลย รับรองอร่อยแน่ แม้แต่กาแฟ Luckin ผมก็สั่งไว้ก่อนแวะไปรับได้ ไม่ต้องยืนรอนาน
2. DiDi เรียกแท็กซี่ผ่าน Alipay สะดวกสบายกว่ารถไฟฟ้า
หลายคนอาจจะคิดว่ามาเซี่ยงไฮ้ก็ใช้รถไฟฟ้าใต้ดินเป็นหลักสิ สะดวกดี แต่สำหรับผมเรียกแท็กซี่ด้วย DiDi สะดวกกว่าเยอะครับ เพราะทั้งเร็วกว่าและประหยัดแรงเดินขึ้นลงสถานี แถมไม่ต้องถูกตรวจกระเป๋าตลอดเวลา ราคาก็ไม่ต่างกันมาก วิธีใช้ก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่เรียกผ่านแอป Alipay (ซึ่งทุกคนต้องมีอยู่แล้วเวลามาจีน) บอกเลยว่าสะดวกสบายสุดๆ ไม่ต้องดาวน์โหลดแอป DiDi แยกให้วุ่นวายเลย ข้อดีอีกอย่างคือราคาค่าบริการครับ DiDi ในเซี่ยงไฮ้ถือว่าไม่แพงเลย ถ้าไปกันหลายคนหารกันแล้วอาจจะถูกกว่าค่ารถไฟฟ้าด้วยซ้ำ ไม่ต้องเดินหาทางออกสถานี ไม่ต้องเบียดเสียดกับผู้คน แถมยังนั่งสบายๆ ชมวิวเมืองไปได้ด้วย มันคือความสะดวกสบายที่ยกระดับการเดินทางในเซี่ยงไฮ้ของคุณไปอีกขั้นจริง ๆ







3. มุมถ่ายรูปหอไข่มุก แบบไม่เบียดคน
ใครๆ ก็อยากได้รูปสวยๆ คู่กับ หอไข่มุก แลนด์มาร์กของเซี่ยงไฮ้ใช่ไหมครับ ผมมีสองมุมเด็ดที่รับรองว่าได้รูปปังๆ แบบไม่ต้องทนเบียดกับใครเลยครับ
มุมแรก: ช่วงเย็นที่ถนนนานจิง (Nanjing Road) ใช่ครับ ถึงแม้ถนนนานจิงจะคนเยอะ แต่ช่วงเย็นๆ นี่แหละคือจังหวะทอง! เดินไปตามถนนนานจิงจนถึงช่วงใกล้แม่น้ำ คุณจะเห็นหอไข่มุกเป็นแบ็กกราวด์ที่สว่างไสว เพราะแสงไฟจะส่องจับตรงนั้นพอดีเลยครับ แม้คนจะเยอะ แต่ตึกสูงสองฝั่งถนนจะช่วยจัดองค์ประกอบภาพให้ดูสวยงาม มีมิติ ไม่รู้สึกว่าคนเบียดเสียดจนเสียอารมณ์ รับรองว่าได้รูปสวย ๆ ชิค ๆ กลับมาแน่นอนครับ
มุมที่สอง: North Bund ตอนเช้า (ก่อน 9 โมงเช้า) ถ้าอยากได้รูปที่เห็นหอไข่มุกแบบโล่งๆ สบายๆ แนะนำให้ตื่นเช้าหน่อยครับ แล้วมุ่งหน้าไปที่ North Bund บริเวณนี้จะมีจุดที่คนชอบไปต่อคิวถ่ายรูปกันเยอะมาก แต่ถ้าคุณไปถึงก่อน 9 โมงเช้า รับรองว่าไม่ต้องต่อคิวให้เสียเวลาเลยครับ ได้รูปสวยๆ กับวิวแม่น้ำและหอไข่มุกแบบเต็มๆ แบบที่ไม่ต้องเบียดกับใคร หลังจากถ่ายรูปเสร็จ ผมแนะนำให้แวะจิบกาแฟที่ Manner Cafe แถวๆ นั้น ร้านกาแฟดี บรรยากาศน่านั่ง เติมพลังก่อนไปเดินเล่นถ่ายรูปชิค ๆ ต่อที่ตึกแดง Rock Bund ที่อยู่ไม่ไกลกัน รับรองว่าได้รูปเก๋ๆ เพียบเลยครับ
4. เดินช็อปและพักย่าน Huaihai ชิลล์กว่ากันเยอะ
ถ้ามาเซี่ยงไฮ้แล้วอยากช้อปปิ้ง หลายคนคงพุ่งตรงไปที่ถนน Nanjing Road ใช่ไหมครับ แต่สำหรับผม ถนน Huaihai (淮海路) คือสวรรค์ของการเดินช้อปและพักผ่อนที่แท้จริง มันชิลล์กว่ากันเยอะมาก! ย่านนี้เต็มไปด้วยร้านแบรนด์เนมทั้งแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่มีดีไซน์น่าสนใจ ไม่ใช่แค่เสื้อผ้า แต่เป็นร้านที่มีของแต่งบ้านเก๋ๆ ร้านกาแฟบรรยากาศดีๆ หรือแกลเลอรีศิลปะเล็กๆ ซ่อนอยู่ ร้าน Songmont สาขา Middle Huaihai มีของครบ และมีไอเท็มพรีเมี่ยมที่สาขาที่เดียวด้วย การเดินเล่นที่นี่ให้ความรู้สึกสบายๆ ไม่เร่งรีบเท่าถนน Nanjing ที่มีคนเยอะจนเหนื่อย แถมยังมีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นตลอดสองข้างทาง ทำให้การเดินเล่นเพลินขึ้นเป็นเท่าตัว ผมได้ใช้เวลาเดินดูร้านเล็กๆ ร้านบุฟเฟต์เนื้อ อร่อย คุ้มๆ และนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่เก๋ๆ ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องเร่งรีบตามใคร เป็นการช้อปปิ้งที่ฟินใกล้เคียงย่าน Dikanyama หรือ Ginza ของญี่ปุ่นเลย
5. Shanghai Greenhouse เปิดใหม่ ทำถึง ถ่ายรูปสวย
ถ้าคุณเป็นสายคาเฟ่ สายถ่ายรูป และกำลังมองหาสถานที่ใหม่ๆ ในเซี่ยงไฮ้ที่คนยังไม่แห่กันไปมากนัก ผมแนะนำ Shanghai Greenhouse เลยครับ ที่นี่เพิ่งเปิดใหม่ไม่นานและเป็นอะไรที่ “ทำถึง” จริงๆ ด้วยการตกแต่งสไตล์เรือนกระจกที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี แสงธรรมชาติส่องเข้ามาอย่างสวยงาม ทำให้ทุกมุมคือมุมถ่ายรูปชั้นยอด!
นอกจากบรรยากาศที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีการจัดแสดงพื้นที่ได้น่าประทับใจ มีบรรยากาศใต้น้ำ น้ำตก ป่าแต่ละประเภท ทำอาคารได้ยิ่งใหญ่ รวบรวมพรรณไม้ได้ดี ถือว่าประทับใจเกินคาด ไม่ว่าคุณจะรักต้นไม้มากหรือน้อยก็ตาม ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่นานเป็นชั่วโมงๆ ถ่ายรูปเพลิน ใครที่ชอบถ่ายรูปและอยากได้รูปปังๆ ที่ไม่เหมือนใคร ห้ามพลาดที่นี่เลยครับ เรียก Didi ไปส่งทางเข้าที่จอดรถ P5 แล้วเดินนิดเดียว ไม่งั้นต้องเดินจากถนนใหญ่ไกลทีเดียว (อันนี้คณะผมพลาดมาแล้ว ดีว่าไปแต่เช้าเลยไม่ร้อนมาก)
6. ไหว้พระวัดหลงหัว แล้วแวะกินบะหมี่เจอร่อยเลิศ
สำหรับคนไทยอย่างเรา มาเที่ยวเมืองจีนแล้วก็อยากจะแวะไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลใช่ไหมครับ วัดหลงหัว (Longhua Temple) คือวัดเก่าแก่ที่สวยงามและเงียบสงบมากครับ ผมชอบบรรยากาศความขลังและสถาปัตยกรรมจีนโบราณของที่นี่มาก ได้เดินชมสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ ทำบุญ และสงบจิตใจ ถือเป็นการพักผ่อนที่ดีเยี่ยมเลย สายมูต้องได้เครื่องรางติดมือกลับมาด้วย
และทีเด็ดที่ผมอยากจะ “บอก” คือหลังจากไหว้พระเสร็จ ให้แวะไปลอง บะหมี่เจ ที่โรงเจของวัดดูครับ! อร่อยเลิศแบบไม่น่าเชื่อ ตัวเส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม น้ำซุปกลมกล่อม มีโปรตีนเกษตรที่ทำรสสัมผัสคล้ายเนื้อสัตว์มากๆ เป็นมื้อที่อิ่มอร่อยสบายท้อง และได้บุญไปในตัวด้วยครับ ผมไม่เคยคิดว่าบะหมี่เจจะอร่อยได้ขนาดนี้ จนมาลองที่นี่แหละ
หวังว่าคำแนะนำจากประสบการณ์ตรงของผมจะช่วยให้คุณวางแผนเที่ยวเซี่ยงไฮ้ได้สนุกและแตกต่างออกไปนะครับ ลองไปสัมผัสเซี่ยงไฮ้ในแบบที่ “ไม่มีใครเคยบอก” ดู แล้วคุณจะหลงรักเมืองนี้ในอีกมุมมองหนึ่งเลยครับ!