Home » ดีป้า เผยผลสำรวจอุตฯ ดิจิทัลไทย ปี 67 โต 23% อีก 3 ปีมูลค่าทะลุ 3 ล้านล้านบาท

ดีป้า เผยผลสำรวจอุตฯ ดิจิทัลไทย ปี 67 โต 23% อีก 3 ปีมูลค่าทะลุ 3 ล้านล้านบาท

โดย กองบรรณาธิการ
481 views

ดีป้า เผยอุตฯ ดิจิทัลไทย ปี 67 ขยายตัวแรง 23.35% มูลค่ารวมกว่า 2.4 ล้านล้านบาท พบอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะโตเด่นสุด

ดีป้า ร่วมกับ สถาบันไอเอ็มซี เผยผลสำรวจข้อมูลและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัล ประจำปี 2567 พร้อมคาดการณ์แนวโน้ม 3 ปี ชี้ภาพรวมอุตสาหกรรมขยายตัว 23.35% คิดเป็นมูลค่ารวมราว 2.496 ล้านล้านบาท โดยอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะขยายตัวสูงสุดที่ 26.6% พร้อมวิเคราะห์ผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา และชี้โอกาสของอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยท่ามกลางการแข่งขันระหว่างสองขั้วอำนาจโลก

กษมา กองสมัคร รักษาการรองผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มงานยุทธศาสตร์และความมั่นคง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า การสำรวจข้อมูลและประเมินสถานการณ์ของอุตสาหกรรมดิจิทัลเป็นความร่วมมือระหว่างดีป้าและสถาบันไอเอ็มซี โดยโฟกัสไปที่ 4 กลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (Software) อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ (Hardware and Smart Devices) อุตสาหกรรมบริการดิจิทัล (Digital Services) และอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content) โดยมีรายละเอียด ดังนี้

อุตฯ ดิจิทัลไทย ปี 67 โตแรง 23.35%

การสำรวจข้อมูลและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัล ประจำปี 2567 พบว่า ภาพรวมขยายตัวจากปีก่อนหน้าถึง 23.35% มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 2,496,760 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมที่ขยายตัวสูงสุดคือ อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะที่มีอัตราการเติบโต 26.62% มีมูลค่า 1,845,027 ล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมบริการดิจิทัล เติบโต 19.54% มีมูลค่า 367,738 ล้านบาท อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ เติบโต 14.41% มีมูลค่า 50,609 ล้านบาท อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ เติบโต 8.46% มีมูลค่า 233,386 ล้านบาท

ในส่วนของบุคลากรดิจิทัลในภาพรวมยังคงเติบโต โดยการสำรวจพบว่าอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์มีบุคลากรเพิ่มขึ้นถึง 23.77% มีจำนวน 175,254 คน ขณะที่อุตสาหกรรมบริการดิจิทัลมีบุคลากร 86,177 คน เติบโต 6.23% อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะมีบุคลากร 305,875 คน ลดลง 5.05% โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตและการใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติมากขึ้น

อุตฯ ดิจิทัล ปี 70 มูลค่าทะลุ 3 ล้านล้านบาท

สำหรับคาดการณ์แนวโน้ม 3 ปี (2568-2570) อุตสาหกรรมบริการดิจิทัลจะมีอัตราการเติบโตสูงสุด ประมาณ 10 – 14% ต่อปี รองลงมาคือ อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ โดยจะเติบโตต่อเนื่อง 6 – 7% ต่อปี ขณะที่อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์จะเติบโตประมาณ 4 – 6% ต่อปี และอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์จะเติบโตประมาณ 1 – 5% ต่อปี

โดยผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า ปี 2570 ทั้ง 4 อุตสาหกรรมจะมีมูลค่ารวมเฉลี่ย 3 ล้านล้านบาท ซึ่งการเติบโตดังกล่าวสอดคล้องกับทิศทางขาขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ที่สร้างความตื่นตัวในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เกิดความต้องการซื้อที่สูงขึ้น

ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ นำเด่นขยายตัว 26.62%

รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการสถาบันไอเอ็มซี และผู้จัดการโครงการฯ ร่วมกับ ศุภชัย สัจไพบูลย์กิจ นักวิจัยโครงการ เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมที่ขยายตัวสูงที่สุดในปี 2567 คือ อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 26.62% และมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1,845,027 ล้านบาท เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก และความต้องการอุปกรณ์อัจฉริยะที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการนำเข้าอุปกรณ์อัจฉริยะที่มีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นถึง 34.40% คิดเป็นมูลค่า 624,099 ล้านบาท ขณะที่การส่งออกเติบโต 23% มีมูลค่า 1,220,928 ล้านบาท 

ซอฟต์แวร์ ปี 67 โชว์มูลค่า 2.33 แสนล้านบาท

สำหรับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ แม้จะมีอัตราการเติบโตไม่สูงมากที่ 8.46% แต่มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 233,386 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น ซอฟต์แวร์ มีมูลค่า 88,129 ล้านบาท เติบโต 8.26% ขณะที่บริการซอฟต์แวร์มีมูลค่า 145,257 ล้านบาท เติบโต 8.57% ทั้งนี้ ปี 2567 ซอฟต์แวร์ที่ผลิตใช้ในประเทศไทยมีมูลค่า 172,822 ล้านบาท เติบโต 8.38% ขณะที่การส่งออกมีมูลค่า 2,625 ล้านบาท ขยายตัว 8.80% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 57,939 ล้านบาท ขยายตัว 8.68% โดยปัจจัยที่กระตุ้นการเติบโตมาจาก AI และการลงทุนด้าน Data Center

บริการดิจิทัล พุ่งแตะ 20%

อุตสาหกรรมบริการดิจิทัลปี 2567 มีมูลค่ารวม 367,738 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 19.54% มีปัจจัยหนุนมาจากความต้องการใช้บริการดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริการ e-Retail ที่มีมูลค่า 117,107 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 46.29% ส่วนบริการ e-Logistics มีมูลค่า 108,693 ล้านบาท เติบโต 17.60% โดยมีปัจจัยจากคนไทยจำนวนมากมีการใช้บริการดิจิทัลอย่างแพร่หลาย ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเทอร์เน็ตที่ดีทำให้เกิดการบริโภคเนื้อหา และการมีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น

“ดีป้า และหน่วยร่วมดำเนินการหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลสำรวจข้อมูลและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัล ประจำปี 2567 และคาดการณ์แนวโน้ม 3 ปีจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายและทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลของรัฐบาลในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อีกทั้งจะเป็นส่วนสำคัญเพื่อประกอบการตัดสินใจวางแผนธุรกิจของภาคเอกชนอีกด้วย” รักษาการรองผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

มองเกมสองขั้วอำนาจ US & China กับโอกาสของดิจิทัลไทย

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการวิเคราะห์ผลกระทบของการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกาต่ออุตสาหกรรมดิจิทัลไทยในประเด็นที่อาจส่งผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบต่อการส่งออกและนำเข้าสินค้าดิจิทัลของไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก พร้อมกันนี้ยังมีการบรรยายพิเศษโดย ปฐม อินทโรดม กรรมการสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย ในหัวข้อ “มองเกมให้ขาด: ทางเลือกระหว่างสองขั้วอำนาจกับโอกาสของดิจิทัลไทย”

โดยชี้ให้เห็นถึงโอกาสของไทยในการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลท่ามกลางการแข่งขันทางเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงการปรับตัวของอุตสาหกรรมไทยเพื่อรับมือกับความท้าทายและโอกาสใหม่ที่เกิดขึ้น

โดยสรุปได้ว่า ภายใต้ความขัดแย้งทางเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ กับจีนขยายวงกว้างจากเรื่องการค้าสู่ประเด็นสำคัญอย่าง AI ชิป คลาวด์ และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เทคโนโลยีได้กลายเป็นเครื่องมือใหม่ในการแสวงหาอำนาจทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ ประเทศไทยไม่ใช่เพียงผู้สังเกตการณ์ที่อยู่นอกวง แต่กลายเป็นประเทศที่ถูกจับตามองในฐานะหนทางใหม่หรือฮับสำคัญในภูมิภาค เพราะมีความเชื่อมโยงกับทั้งสหรัฐฯ และจีน

โดยสหรัฐฯ แสดงความกังวลต่อความเป็นไปได้ของการนำเข้า GPU โดยไม่ได้รับอนุญาตผ่านไทย ขณะที่จีนเล็งเห็นบทบาทของไทยในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์สำหรับห่วงโซ่อุปทานดิจิทัลระดับภูมิภาค

จากบริบทดังกล่าว จึงเป็นโอกาสต่ออุตสาหกรรมดิจิทัลของไทย ซึ่งปัจจัยสนับสนุนคือ การวางตำแหน่งให้ไทยเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของอาเซียนที่เป็นกลางแต่มีขีดความสามารถสูง รวมถึงการส่งเสริมให้เกิดกรอบกฎหมายที่เหมาะสมสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI และการกำกับดูแลชิป และสุดท้ายคือ การพัฒนาการใช้งาน AI และระบบอัตโนมัติในประเทศที่เทียบเคียงได้กับประเทศชั้นนำของเอเชียเพื่อนำศักยภาพดิจิทัลของไทยไปสู่ระดับสากล

You may also like

The-Perspective แหล่งรวมองค์ความรู้ มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ เกาะติดข่าวสารคาดการณ์อนาคต

Tel:  081-619-9494
Email:
editor@the-perspective.co
naiyanaone@gmail.com

Total Visit:

298,728

298,728

Editors' Picks

Latest Posts

The-Perspective © All Right Reserved.

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเก็บข้อมูลและรวบรวมสถิติวิจัยทางด้านการตลาด การวิเคราะห์แนวโน้ม ตลอดจนนำมาปรับปรุง และควบคุมการทำงานของเว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอม ท่านยังสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้ปกติ ยอมรับทั้งหมด