AI อาจจะไม่ใช่สิ่งที่แยกจากมนุษย์เท่าไหร่นัก — นักวิจัยจาก Google เผยมุมมองใหม่เกี่ยวกับวิวัฒนาการของความฉลาด
สมองมนุษย์ = คอมพิวเตอร์?
Agüera y Arcas ไม่ได้มองว่าสมองเป็นคอมพิวเตอร์ก็แค่ในเชิงเปรียบเปรย เขาเชื่อว่าสมองเป็นคอมพิวเตอร์จริงๆ ที่มีหน้าที่หลักคือการประมวลผลข้อมูล โดยเฉพาะในรูปแบบของการ “คาดการณ์” ซึ่งเป็นสิ่งที่ระบบ AI ทำได้เช่นเดียวกัน
“ผมไม่ได้พูดว่าสมอง เหมือน คอมพิวเตอร์ แต่บอกว่าสมอง คือ คอมพิวเตอร์”
ชีวิตเริ่มจากการประมวลผล
ในหนังสือเล่มใหม่ของเขา “What Is Intelligence? Lessons from AI About Evolution, Computing, and Minds” Agüera y Arcas อธิบายความเป็น “เชิงคำนวณ” ของชีวิต ตั้งแต่แรกเริ่มของวิวัฒนาการ เขาชี้ว่า ความซับซ้อนของสิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมอง ไม่ได้เกิดจาก “การกลายพันธุ์แบบสุ่มและการคัดเลือกโดยธรรมชาติ” เพียงเท่านั้น แต่ยังเกิดจาก “ไซม์ไบโอเจเนซิส (symbiogenesis)” — การรวมตัวและความร่วมมือของสิ่งมีชีวิตต่างชนิดกันเพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนขึ้น
แนวคิดนี้ได้แรงบันดาลใจจากนักชีววิทยา Lynn Margulis ผู้เสนอว่าเซลล์ที่ซับซ้อนในปัจจุบันเกิดจากการรวมตัวของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ หลายชนิดที่เคยแยกจากกัน
“เมื่อคอมพิวเตอร์สองตัวรวมตัวกันและเริ่มทำงานร่วมกัน มันคือการประมวลผลแบบขนาน (parallel computation) — และสิ่งนี้นำไปสู่การพัฒนาความฉลาดที่มากขึ้น”
การทดลองที่ Google: ความซับซ้อนจากความว่างเปล่า
Agüera y Arcas ได้แชร์วิดีโอจากการทดลองที่ Google ซึ่งเขาใช้ภาษาโปรแกรมพื้นฐานที่มีคำสั่งแค่ 8 แบบ เพื่อดูว่าจากจุดเริ่มต้นแบบสุ่มสามารถพัฒนาโปรแกรมที่ซับซ้อนและสามารถจำลองตัวเองได้อย่างไร
ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าแม้จะเริ่มจาก “ข้อมูลไร้ระเบียบ” แต่การปฏิสัมพันธ์อันหลากหลายก็สามารถนำไปสู่ระบบที่มีชีวิตและสมรรถภาพเพิ่มมากขึ้น — เช่นเดียวกับกำเนิดของชีวิตจริงในจักรวาล
ความร่วมมือคือกุญแจของความฉลาด
Agüera y Arcas เสนอว่าความสามารถในการคาดการณ์และมีอิทธิพลต่ออนาคตคือแก่นของความฉลาด จุดเปลี่ยนสำคัญของมนุษย์เกิดขึ้นเมื่อเราเริ่มรวมตัวกันเป็นสังคม
“แต่ละคนอาจไม่ได้ฉลาดมากนัก แต่เมื่อเราทำงานร่วมกัน เราสามารถปลูกถ่ายอวัยวะ หรือส่งมนุษย์ขึ้นดวงจันทร์ได้ — นั่นคือความฉลาดแบบรวมหมู่ของมนุษย์”
เขาชี้ว่า ความฉลาดระดับสูงเช่นนี้เกิดจาก
- ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
- การเข้าใจกันผ่านความคิด
- ความสามารถในการ “จำลองจิตใจผู้อื่น”
ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นรากฐานของการทำงานร่วมกันในสังคม
สรุป
Agüera y Arcas ตั้งคำถามกับคำว่า “ปัญญาประดิษฐ์” ว่าจริงๆ แล้ว AI อาจไม่ได้เป็นของปลอม แต่กลับเป็นภาพสะท้อนของความฉลาดเชิงชีวภาพของมนุษย์ที่พัฒนามาในรูปแบบใหม่ และความร่วมมือคือพลังที่ขับเคลื่อนความฉลาดในทุกระดับ — ทั้งในธรรมชาติและในโลกเทคโนโลยี