ยังคงสานต่อโครงการดีๆ อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 สำหรับ “เยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม” โครงการที่เสริมสร้างทักษะความรู้เรื่องชุมชนให้กับเยาวชน และฝึกฝนการเป็นเจ้าบ้านที่ดีพร้อมเป็นผู้สืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของไทยไปสู่สากล พร้อมทั้งเผยแพร่เรื่องราว บอกเล่าประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตของชุมชนให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่มาเที่ยวงาน “Bangkok River Festival 2025 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย” ครั้งที่ 11 ภายใต้แนวคิด “ลอยกระทงกตัญญูแม่พระคงคา บูชาแม่แห่งแผ่นดิน” ที่มีกำหนดจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3-5 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา
ในปีนี้ยังคงได้รับความสนใจจากผู้ปกครอง และเยาวชนในชุมชนให้การตอบรับเข้าร่วม โครงการโดยเยาวชนที่เข้าร่วมมีอายุระหว่าง 7-16 ปี จำนวนกว่า 80 ชีวิต ที่มีความกล้าแสดงออก จิตอาสาและ มีความสามารถในการถ่ายทอดเรื่องราวของชุมชนตนเองให้กับนักท่องเที่ยวได้
สำหรับปีนี้ ได้มีการจัดกิจกรรมอบรมเยาวชนเจ้าบ้านก่อนลงพื้นที่ปฏิบัติงานจริง โดยมีการนัดรวมตัวกันที่มิวเซียมสยาม เริ่มต้นด้วยกิจกรรมละลายพฤติกรรม เพื่อให้น้องๆ ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น สร้างความคุ้นเคย เปิดใจ และกล้าแสดงความคิดเห็น เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์
จากนั้น รุ่นพี่เยาวชนเจ้าบ้านได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์จากปีที่ผ่านมา ถ่ายทอดมุมมองและแนวทางการทำงาน พร้อมทั้งร่วมกันทบทวนและทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดของงาน “Bangkok River Festival 2025 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย” รวมถึงทบทวนองค์ความรู้ของทั้ง 5 วัดสำคัญ ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร, วัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร, วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร และวัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร
ต่อจากนั้น เยาวชนได้ร่วมกันออกแบบกระทงจากวัสดุเหลือใช้ เพื่อสร้างสรรค์แนวคิดรักษ์สิ่งแวดล้อม และลงพื้นที่ชมบรรยากาศภายในมิวเซียมสยาม บรรยากาศการอบรมเป็นไปอย่างอบอุ่นและคึกคัก น้องๆ ทุกคนแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ ความกระตือรือร้น และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สะท้อนพลังของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมสืบสานวัฒนธรรมไทยอย่างงดงาม

น้องปลายฝน-ปาริชาต กรีคงคา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเบญจมราชาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตัวแทนเยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม เผยว่า “หนูประจำอยู่ที่วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร ปีนี้เป็นปีที่สองแล้วที่ได้มาร่วมกิจกรรมงานลอยกระทง Bangkok River Festival สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย รู้สึกดีใจมากๆค่ะ เพราะทั้งได้ประสบการณ์ทั้งความรู้ และความสนุก
กิจกรรมครั้งนี้ทำให้หนูได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะหลายด้าน ทั้งทักษะการสื่อสาร ความกล้าแสดงออก รวมถึงการได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษเล็กๆ น้อยๆ ในการพูดคุยกับนักท่องเที่ยวด้วยค่ะ วันนี้เป็นวันแรกของการอบรม มีพี่ๆ มาถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประวัติและความสำคัญของประเพณีลอยกระทง รวมถึงเรื่องราวของ ประทีปโคม ที่งดงามและทรงคุณค่า หนูรู้สึกดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมนี้ และอยากให้ทุกคนมาร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทยในเทศกาลลอยกระทงไปด้วยกันนะคะ”
น้องเจเจ-อิทธิณัฐ จิตรอรุณไสว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดราชบพิธ ตัวแทนเยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม เผยว่า“ผมประจำอยู่ที่วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหารครับ มีหน้าที่คอยบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของวัดอรุณฯ แนะนำจุดสำคัญต่างๆ ภายในวัด และช่วยชี้เส้นทางให้กับนักท่องเที่ยว เช่น บอกทางไปจุดเยี่ยมชมที่น่าสนใจ
พวกเราจะใส่เสื้อเยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรมกระจายอยู่ในทุกบริเวณของวัด เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตรครับ ผมรู้สึกสนุกและประทับใจมาก เพราะได้ฝึกความกล้าในการพูดคุยกับผู้คน ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และเรื่องราวที่ไม่เคยรู้มาก่อน ถือเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าและน่าจดจำจริงๆ ครับ”
ทางด้าน คุณสุรพล เศวตเศรนี ประธานการจัดงาน River Festival 2025 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ให้ข้อมูลว่า “การจัดงาน “River Festival 2025 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย” ยังคงมุ่งมั่นสานต่อกิจกรรมที่มีคุณค่า ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม เช่น กิจกรรม “เก็บ–กลับ–รีไซเคิล” เพื่อรณรงค์การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ และกิจกรรม “เยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม” ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 กิจกรรมเยาวชนเจ้าบ้านถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของงาน
โดยเปิดโอกาสให้น้องๆ เยาวชนในพื้นที่ได้เรียนรู้และทบทวนความรู้เกี่ยวกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งวัดและท่าน้ำสำคัญ ตลอดจนได้รับการอบรมจากวิทยากรมืออาชีพเกี่ยวกับข้อมูลประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่า
นอกจากนี้เยาวชนยังได้พัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร ความกล้าแสดงออก และการสร้างปฏิสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยว เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของชุมชนอย่างภาคภูมิใจ อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายมิตรภาพ ความสามัคคีของเยาวชนที่มีใจรักในวัฒนธรรมจะกลายเป็นพลังสำคัญที่ติดตัวพวกเขาไปในอนาคต ทั้งในการทำงาน การแบ่งปัน และการเป็นกำลังสำคัญในการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมไทยต่อไป”
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่ปลูกฝังให้เยาวชนคนรุ่นใหม่มีความรัก ความหวงแหนวัฒนธรรรมวิถีชีวิตแบบไทย ที่ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งที่ได้เผยแพร่เรื่องราวดี ๆ ของชุมชนตนเองจนก่อให้เกิดการท่องเที่ยวโดยชุมชน และความยั่งยืน