บทความโดย: “กู๋แมธธ์” สุวิทย์ เอื้อศักดิ์ชัย นักสร้างแบรนด์มือโปร
Brand Differentiated หรือการที่เจ้าของแบรนด์เลือกที่จะโดดเด่นเพียงด้านเดียว หรือมากกว่า 1 ด้านได้หรือไม่? ในบทความมีคำตอบให้ 2 มุม และบทสรุปปิดท้ายให้อ่าน
ในด้านการสร้างแบรนด์เป็นอะไรที่ซับซ้อนมาก เรื่องหนึ่งที่มักจะถูกตั้งคำถามคือ Brand Differentiated หรือการที่เจ้าของแบรนด์เลือกที่จะโดดเด่นเพียงด้านเดียว หรือมากกว่า 1 ด้านได้หรือไม่? ในบทความมีคำตอบให้ 2 มุม แบบไม่ bias ..
• มุมที่ 1 มี Brand Differentiated ข้อเดียว
แสดงถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ลึกจริง อาจมีคู่แข่งน้อยราย หรือไม่มีคู่แข่งเลย
ในมุมสะท้อนที่คนอื่นมองเรา เขาจะรับรู้ว่า จุดเด่นเราคือด้านไหน เขาจะมีนิยามให้เรา ถ้าความเป็นเรา หรือผลิตภัณฑ์ของเรา มีอะไรที่อยู่ในความนึกคิดของกลุ่ม Persona ซึ่งถ้าตัวเราชัดเจนมาก ความเป็นเราคือ Single Mind ในความคิดเขา แต่สิ่งที่กล่าวมานี้สร้างยากมาก เพราะต้องใช้เวลา ทั้งสั่งสมด้วยประสบการณ์และความรู้ที่คนอื่นยอมรับ … ถึงจะเรียกว่าชื่อเสียงที่เขายกให้ เป็นมูลค่าทางความคิดที่ใช้เงินซื้อไม่ได้
• มุมที่่ 2 มี Brand Differentiated มากกว่า 1 ข้อ
แสดงถึงทักษะความสามารถมากกว่าสิ่งที่เป็นจุดขายเรา
เคสนี้ ทำได้และมีได้เช่นกัน แต่ต้องเป็นมือโปรพอสมควร ในการทำให้คนอื่นยอมรับนั้นต้องมีผลงานโดน และโดดเด่นในเชิงประจักษ์ ต้องหมั่น ReSkill ให้โดดเด่น ซึ่งกู๋ขอเรียกว่า Brand Attributes ที่จับต้องได้ในเชิงความสามารถที่หลากหลาย แต่ถ้าเราอยากให้คนยอมรับ ต้องมีชิ้นงานที่สร้างความน่าสนใจให้ Profile & Personal ShowCase ที่ชัดเจน ไม่ใช่ แค่ทำได้เท่านั้น แต่ต้องสร้างปรากฏการณ์ได้
ลองถามตัวเองดูครับ ว่าเราอยากจะมี Personal Branding ในลักษณะรูปแบบไหน… คำแนะนำคือ ควรเริ่มจาก การโดดเด่นในข้อเดียวก่อนครับ เพราะสิ่งนั้นคือทางเราที่ใช่ที่สุด
#BrandDifferentiated #Brand #BrandKetingAcademy