Home » Medical Hub ของไทยอาจถูกเซี่ยงไฮ้มาแทนที่

Medical Hub ของไทยอาจถูกเซี่ยงไฮ้มาแทนที่

โดย ปฐม อินทโรดม
3.2K views

บทความโดย: คุณปฐม อินทโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน)

วงการแพทย์เอเชียเปลี่ยนครั้งใหญ่ เมื่อจีนมุ่งเป็น Global Medical Innovation Hub เตือนไทยอย่าติดกับดัก Medical Tourism แบบเดิม หากต้องการรักษาแชมป์ Medical Hub ในภูมิภาค

เพียงแค่ปีนี้ปีเดียวผมเดินทางไปดูงานในเซี่ยงไฮ้มากถึง 3 ครั้ง โดยหนึ่งในหัวข้อที่ไปชมและรับฟังบรรยายสรุปเหมือนกันทุกครั้งก็คือด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยเคยภาคภูมิใจในบทบาท “Medical Hub of Asia” มีต่างชาติเข้ามาดูงาน มารักษาตัว มาเรียนรู้กรณีศึกษาของโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ ทั้งการบริการแบบพรีเมียมที่ผสานความเป็น Hospitality แบบไทย ๆ ทั้งราคาค่ารักษาที่ถูกกว่าชาติตะวันตก และทั้งชื่อเสียงด้าน Medical Tourism ที่ดึงดูดผู้ป่วยจากทั่วทั้งตะวันออกกลาง เอเชียใต้ และ CLMV

แต่วันนี้เซี่ยงไฮ้กลับโดดเด่นและก้าวเข้ามาแทนที่มากขึ้น โดยในเดือนมกราคม 2025 รัฐบาลเซี่ยงไฮ้ประกาศแผนอนุญาตให้บริษัทต่างชาติสามารถเปิดโรงพยาบาลที่เป็นเจ้าของเต็มรูปแบบ (Wholly Foreign-Owned Hospitals) ได้เป็นครั้งแรกในพื้นที่เขตเศรษฐกิจใหม่ เช่น Lingang และ Hongqiao ซึ่งเป็นโซนที่มีชาวต่างชาติจำนวนมากอาศัยอยู่

นโยบายนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง “เปิดเสรี” แต่มันคือหมากสำคัญของ กลยุทธ์ระดับชาติจีน ที่ต้องการสร้างเซี่ยงไฮ้ให้เป็น Global Medical Innovation Hub ที่เชื่อมโยงทั้งเทคโนโลยีทางการแพทย์ การลงทุน บริการพรีเมียม และระบบวิจัยล้ำยุค

เมื่อเซี่ยงไฮ้เปิดรับโรงพยาบาลต่างชาติอย่างเป็นทางการ ผลที่จะเกิดขึ้นทันทีคือบริการสุขภาพของโรงพยาบาลระดับโลกอย่าง Cleveland Clinic, Mayo Clinic, Singapore Medical Group จะเข้ามาตั้งรกรากในจีนมากขึ้น

ซึ่งนั่นไม่ใช่เพียงการดึงดูดคนไข้ แต่มันจะสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของเซี่ยงไฮ้ เช่น Fudan, Shanghai Jiao Tong ที่ติดอันดับโลกในด้านแพทย์ศาสตร์สูงกว่ามหาวิทยาลัยไทยให้มีความได้เปรียบมากขึ้นไปอีก

สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือความก้าวหน้าอย่าง AI ทางการแพทย์ ระบบวินิจฉัยอัตโนมัติ ระบบ Telemedicine โครงการ Medical Data Cloud ที่จีนลงทุนมหาศาล จะถูกนำมาใช้แบบเชิงพาณิชย์ทันที ดึงดูดบุคลากรทางการแพทย์ระดับโลกให้ย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำงานมากขึ้น

เมื่อถึงพร้อมทั้งบุคลากรทางการแพทย์และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทั้งหมดจะก่อให้เกิดการสร้างการทดลองทางคลินิกระดับนานาชาติ ทำให้เซี่ยงไฮ้กลายเป็นทั้งแหล่งรักษา และแหล่งพัฒนาความรู้ทางการแพทย์ไปพร้อม ๆ กัน

ทั้งหมดนี้จะส่งผลกระทบกับเรามหาศาล เริ่มจากผู้ป่วยจีนที่เคยมารักษาในไทย จะย้ายไปสู่เซี่ยงไฮ้แทน ทั้งที่ก่อนโควิด กลุ่มผู้ป่วยจีนเคยเป็นฐานการตลาดใหญ่ของโรงพยาบาลไทยมาก่อน

แต่เมื่อเซี่ยงไฮ้มีโรงพยาบาลต่างชาติพร้อมบริการพรีเมียม ชาวจีนจะไม่ต้องบินไปรักษาในกรุงเทพฯ หรือภูเก็ตอีกต่อไป ที่สำคัญบุคลากรแพทย์ไทยอาจถูกดูดไปสู่เซี่ยงไฮ้มากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อโรงพยาบาลต่างชาติตั้งที่เซี่ยงไฮ้ บุคลากรทางการแพทย์เก่ง ๆ จากไทย เช่น แพทย์เฉพาะทาง พยาบาลที่สื่อสารอังกฤษได้ อาจได้รับข้อเสนอค่าตัวที่สูงกว่า ทำให้ปัญหาขาดแคลนบุคลากรของไทยเลวร้ายลงไปอีก

และสุดท้ายไทยจะถูกกดให้กลายเป็น Medical Tourism แบบ Low-Tier เพราะในขณะที่จีน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ แข่งกันเรื่องเทคโนโลยีทางแพทย์ ไทยอาจถูกมองว่าเป็นแค่ประเทศที่ค่ารักษาถูก โดยไม่มีความโดดเด่นในด้านนวัตกรรมใด ๆ สิ่งที่เคยเป็นจุดแข็ง จะกลายเป็นข้อจำกัด

ทางรอดของไทยจึงต้องเลิกมองตัวเองเป็นแค่ Medical Tourism แต่ต้องเปลี่ยนเป็นตัวเองให้เป็น Medical Innovation Hub สร้างระบบนิเวศที่ดึงงานวิจัยและพัฒนารวมถึงการสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์เข้ามา

นอกจากนั้นควรเปิดรับโรงพยาบาลต่างชาติในรูปแบบใหม่ เช่น ทดลองให้สิทธิพิเศษในการลงทุนผ่าน BOI และดึงประเทศที่มีศักยภาพอย่างญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ มาตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและรักษาโรคเฉพาะทาง

ที่สำคัญที่สุดคือถึงเวลาแล้วที่เราต้องลงทุนใน HealthTech อย่างจริงจังโดยมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนจากภาครัฐและสถาบันการศึกษาที่เน้นการทำ AI ทางการแพทย์ เช่น ช่วยวินิจฉัย ใช้ Robot ช่วยผ่าตัด สร้างแพลตฟอร์มข้อมูลผู้ป่วย และส่งเสริมสตาร์ทอัพและพัฒนา sandbox ด้านสุขภาพในไทย

ไทยต้องตระหนักว่า “Medical Hub” ไม่ใช่แค่เรื่องเตียงผู้ป่วยที่มองเห็นวิวสวยงาม หรือหมอที่พูดภาษาอังกฤษได้ แต่คือยุทธศาสตร์และนโยบายด้านสาธารณสุข เทคโนโลยี และความสามารถในการสร้างความเชื่อมั่นระดับโลก ซึ่งเซี่ยงไฮ้กำลังเดินหน้าในทิศทางนั้นอย่างเต็มกำลัง

ถ้าไทยยังติดกับดัก Medical Tourism แบบเดิม Medical Hub ที่เคยฝันไว้อาจฉุดให้เราไปไม่ถึงฝั่งฝัน

You may also like

The-Perspective แหล่งรวมองค์ความรู้ มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ เกาะติดข่าวสารคาดการณ์อนาคต

Tel:  081-619-9494
Email:
editor@the-perspective.co
naiyanaone@gmail.com

Total Visit:

319,417

319,417

Editors' Picks

Latest Posts

The-Perspective © All Right Reserved.

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเก็บข้อมูลและรวบรวมสถิติวิจัยทางด้านการตลาด การวิเคราะห์แนวโน้ม ตลอดจนนำมาปรับปรุง และควบคุมการทำงานของเว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอม ท่านยังสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้ปกติ ยอมรับทั้งหมด