คุณจิรภัทร์ กาญจะโนสถ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สปา-ฮาคูโฮโด จำกัด เปิดเผยว่า “สปา-ฮาคูโฮโด” ได้ดำเนินกิจการด้านการสร้างแบรนด์และโฆษณาในประเทศไทยมานานกว่า 40 ปี จึงได้สั่งสมประสบการณ์ และเข้าใจตลาดเมืองไทยอย่างลึกซึ้ง ทำให้มีต้นทุนในเรื่องข้อมูลและความเข้าใจผู้บริโภคที่มากกว่า
ซึ่งเมื่อนำมาผนวกกับจุดแข็งของบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นที่มีองค์ความรู้และนวัตกรรมที่ล้ำหน้า จึงเข้ามาช่วยให้การวางแผนงานมีประสิทธิภาพและสามารถพัฒนาข้อมูลที่มีให้อยู่ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้บริษัท สปา-ฮาคูโฮโด จำกัด มีความสามารถที่จะอยู่ในตลาดของการแข่งขันที่รุนแรงมาได้อย่างยาวนานและมั่นคง
จากสภาวการณ์ในด้านการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว “สปา-ฮาคูโฮโด” จึงมุ่งเดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของโลกการตลาดยุคใหม่ จากเดิมที่ “สปา-ฮาคูโฮโด” ถือเป็นเอเจนซี่ ที่ให้บริการครอบคลุมทุกความต้องการ (Full Service) ตั้งแต่การสร้างแบรนด์ การสร้างสรรค์งานโฆษณา ตลอดจนการวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารการตลาด
โดยการปรับโครงสร้างองค์กรในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มความชัดเจนในบริการใหม่ ทีมีความแตกต่างจากรูปแบบการให้บริการในปัจจุบัน เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนไป คุณจิรภัทร์ ได้ดึงผู้บริหารคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมพัฒนาและช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จในด้านต่างๆ ประกอบด้วย
1) คุณบงกช เจริญธรรม ช่วยบริหารเรื่องการเชื่อมต่อและสร้างเสริมการร่วมมือของเครือข่ายฮาคูโฮโดทั่วโลก 2) คุณชาญวิทย์ ตระกูลไพบูลย์ผล ช่วยบริหารเรื่องการพัฒนานวัตกรรมที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในยุคการตลาดปัจจุบัน 3) คุณพิมพิศา จุฬา เทิดทูลทวีเดช ช่วยบริหารด้านการพัฒนาแพลตฟอร์มทางธุรกิจในรูปแบบใหม่ที่เน้นการให้บริการด้านที่ปรึกษาทางธุรกิจ 4) คุณภัค บุญชูสนอง ครีเอทีฟรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาเสริมกำลังในการพัฒนาด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ (Creative Solution) และการคิดงานที่นอกกรอบ 5) คุณนัฐกาญจน์ วัฒนมงคลศิลป์ ผู้นำด้านการวางแผนกลยุทธ์จากการค้นคว้าและทำความเข้าใจในมนุษย์ เพื่อช่วยขับเคลื่อนแบรนด์และสังคมอย่างยั่งยืน
สำหรับกลยุทธ์ในการทําธุรกิจของ สปา-ฮาคูโฮโด นั้นเหมือนซอฟต์แวร์ (Software) ที่ต้องมีการอัพเกรด ให้เข้ากับความต้องการของการแข่งขันที่เปลี่ยนไปอยู่เสมอ ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ทรัพยากร (Resource) นวัตกรรม (Innovation) และเครื่องมือ (Tools) ให้สอดคล้องกับโอกาสทางธุรกิจที่เปลี่ยนไป โดยลูกค้าจะยังคงได้รับการบริการพื้นฐานที่ดีเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมมิติใหม่ๆ ที่จะเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการให้สูงขึ้น ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในยุคที่ต้องการสร้างความเติบโตแบบก้าวกระโดด
โดย “สปา-ฮาคูโฮโด” ได้แตกกลุ่มธุรกิจย่อย (Business Unit) ออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อให้บริการแบบเจาะจงกับความต้องการเฉพาะด้าน ดังนี้
กลุ่มธุรกิจแรกอยู่ภายใต้ชื่อ “สเปซ” (“SPACE”) ซึ่ง “SPACE” จะเป็นกลุ่มธุรกิจที่ให้บริการเรื่องของการตลาดดิจิทัลอย่างครบวงจร ด้วยทีมงานที่มีความรู้ความเข้าใจการตลาดยุคใหม่ มีวิธีคิดแบบใหม่ มีการสร้างสรรค์งานที่มุ่งเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโลกดิจิทัล มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนางานให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้แพลตฟอร์มใหม่ๆ ในการสื่อสาร
กลุ่มธุรกิจที่สองของ “สปา-ฮาคูโฮโด” อยู่ภายใต้ชื่อ “แพลนต์” (“Plant”) ซึ่งจะมุ่งเน้นการให้บริการเรื่องการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจและการนำเสนอโซลูชั่นทางการตลาดให้กับลูกค้า ด้วยบริบทของโลกการตลาดที่เปลี่ยนไป ไม่ใช่ทุกแบรนด์ที่จะทุ่มงบประมาณในการทำแคมเปญเพื่อสร้างการรับรู้กับผู้บริโภค ในโลกธุรกิจยุคใหม่มีผู้เล่นใหม่ๆ ที่ต้องการกระโดดเข้ามาแข่งขัน แต่ยังต้องการที่ปรึกษาในด้านการคิดและวางแผนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้น “Plant” จึงถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการด้านการกลยุทธ์ทางธุรกิจ และสร้างสรรค์งานที่เน้นการนำเสนอโซลูชั่นทางการตลาดให้กับลูกค้าอย่างครบวงจร
กลุ่มธุรกิจที่สามของ “สปา-ฮาคูโฮโด” คือ “อาร์เชอร์” (“Archer”) ที่เกิดขึ้นจากการมองเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจในโลกยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงไป กลุ่มธุรกิจจีนเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนสินค้าและนวัตกรรมต่างๆ ที่ผ่านมามีโอกาสได้ดูแลแบรนด์จีนระดับโลก จึงได้เรียนรู้และทําความเข้าใจวิธีคิดและความต้องการของนักการตลาดชาวจีน
ดังนั้นเมื่อตลาดจีนมีแนวโน้มเติบโต บริษัทฯ จึงพร้อมลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และทรัพยากรด้านต่างๆ (Chinese Resource) เพื่อให้เป็นแบรนด์เอเจนซี่ ที่มอบโททอลโซลูชั่น สามารถให้บริการกลุ่มธุรกิจจีนได้อย่างครบวงจร และนอกเหนือจากนั้น “Archer” ยังมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าตลาดค้าปลีกในเมืองไทย ที่เน้นการทำการตลาดคล้ายกับธุรกิจจีน คือเน้นเรื่องการสร้างสรรค์งานที่พุ่งเป้า รวมถึงความคล่องตัวและความรวดเร็วในการให้บริการ
การแตกกลุ่มธุรกิจภายใต้ “สปา-ฮาคูโฮโด” ถือเป็นการเพิ่มความชัดเจนในประเภทของบริการที่แตกต่าง ด้วยการจัดตั้งกลุ่มธุรกิจที่โฟกัสในการให้บริการในแต่ละด้าน เพื่อพัฒนาและสร้างความแข็งแกร่งด้วยความรู้ เทคโนโลยีที่ทันสมัย และบุคลากรที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยทั้งหมดนี้ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของเราให้ตอบโจทย์ความต้องการและความพึงพอใจให้ลูกค้าเดิม รวมถึงขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ ได้กว้างขึ้น
ทั้งนี้ แม้ว่าโครงสร้างและกลยุทธ์ขององค์กรจะมีการปรับเปลี่ยน แต่ปรัชญาในการทำธุรกิจของเรายังคงเหมือนเดิม นั่นคือ การทำงานแบบพาร์ทเนอร์ (Partnership Spirit) ที่ไม่ใช่แค่เอเจนซี่กับลูกค้า แต่คือการทำงานร่วมกันแบบก้าวไปเคียงข้างกันเพื่อการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน ตัวชี้วัดความสำเร็จของเราก็คือความสําเร็จของลูกค้า และสิ่งนี้คือสิ่งที่ทําให้มีลูกค้าที่อยู่กับเรายาวนานแบรนด์ละเป็นสิบๆ ปี” คุณจิรภัทร์ กล่าวเสริม
สำหรับปี 2566 ที่ผ่านมา “สปา-ฮาคูโฮโด” ประสบความสำเร็จอย่างสูง มีสัดส่วนลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง 30% สวนกระแสสภาวะเศรษฐกิจชะงักงันที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งเป็นที่น่าจับตาว่าหลังจากนี้จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโฆษณาไปในทิศทางใด และมีอะไรใหม่ๆ ออกมาให้ติดตามในยุคของการเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้