Home » การพนันออนไลน์: โอกาส หรือภัยสังคมของประเทศไทย?

การพนันออนไลน์: โอกาส หรือภัยสังคมของประเทศไทย?

367 views

การขับเคลื่อนให้พนันออนไลน์ถูกกฎหมาย แม้จะสามารถจัดเก็บภาษีได้จำนวนมาก แต่ก็อาจส่งผลกระทบทางสังคมที่ไม่คุ้มค่าในระยะยาว

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงดีอี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อนำการพนันออนไลน์ขึ้นมาอยู่ในระบบให้ถูกกฎหมาย โดยมีเป้าหมายควบคุมและจัดเก็บภาษีจากธุรกิจพนันออนไลน์ที่มีมูลค่าสูงถึง 3 ล้านล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ใต้ดินและไม่ถูกควบคุม โดยมีการระบุว่าการดำเนินการนี้จะช่วยเพิ่มรายได้รัฐ ป้องกันการทุจริต ปกป้องเด็กและเยาวชนจากการเข้าถึงพนันออนไลน์ก่อนวัยอันควร

การพนันออนไลน์ในบ้านเราได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงล็อกดาวน์อันเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้เล่นพนันที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้หันไปเล่นพนันออนไลน์มากขึ้น ประกอบกับวิถีชีวิตที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น มีการใช้เวลากับโทรศัพท์มือถือและหน้าจอคอมพิวเตอร์ และเกือบทุกคนได้เห็นโฆษณาป็อปอัพสำหรับการพนันออนไลน์ที่มีโปรโมชันหลายอย่าง ที่ดึงดูดให้เข้าไปเล่นทำให้จำนวนผู้เล่นเติบโตขึ้นอย่างมาก

แม้การพนันออนไลน์อาจถูกควบคุมอย่างเข้มงวด แต่ก็ยากที่จะตรวจสอบได้ เนื่องจากลักษณะที่ค่อนข้างไม่เปิดเผยตัวตน และระบบออนไลน์สามารถเชื่อมโยงกันได้ทั่วโลก นั่นหมายความว่า แม้ในประเทศที่การพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย คนสามารถที่จะเข้าไปเล่นการพนันออนไลน์จากประเทศอื่นๆ ได้ และการระบุตัวผู้เล่นก็เป็นเรื่องยากเมื่อพวกเขาเข้าสู่ระบบจากที่บ้าน

นอกจากนี้ยังมีเงินสกุลคริปโทเคอร์เรนซี ที่ทำให้ผู้คนสามารถใช้จ่ายเงินข้ามประเทศได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งของการโอนเงินผิดกฎหมายที่ตรวจสอบได้ยาก ประกอบกับมีการซื้อขายเงินคริปโทฯ หรือการทำธุรกิจ NFT บางราย ที่กลายเป็นการลงทุนเพื่อการพนันในรูปแบบใหม่ ก็ยิ่งกระตุ้นให้ธุรกิจการพนันออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างมาก 

สำหรับเหตุผลที่ผู้คนสนใจเล่นการพนันออนไลน์ สำนักวิจัย Statista เคยมีผลสำรวจเมื่อปี 2021 ที่สอบถามผู้เล่นในประเทศไทย และพบว่ากว่า 92.4% ตอบว่าเพราะสะดวกและเข้าถึงได้ง่าย โดยเหตุผลรองลงมาคือ 45.6% ตอบว่ามีรูปแบบการเล่นที่หลากหลาย รวมถึงเหตุผลอื่นๆ ตามมา เช่น การโอนเงินอย่างรวดเร็ว การโน้มน้าวจากเพื่อน เป็นความลับ และความมั่นใจว่าจะไม่ถูกจับกุม

สำนักวิจัย Statista ยังคาดการณ์ว่ารายได้ในตลาดการพนันออนไลน์จะมีมูลค่าถึง 95.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 และจะมีอัตราการเติบโตรายปี (CAGR) 8.54% ซึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 131.90 พันล้านดอลลาร์ในปี 2027 จำนวนผู้เล่นการพนันออนไลน์ทั่วโลกในปี 2019 มีจำนวน 133.5 ล้านคน ได้เพิ่มขึ้นเป็น 220.0 ล้านคนในปี 2022 หลังสถานการณ์โควิด-19 และคาดการณ์ว่าจะพุ่งขึ้นเป็น 339.8 ล้านคนในปี 2027

ทั้งนี้ในการประมาณการได้แบ่งตลาดการพนันออนไลน์เป็น 3 กลุ่ม คือ คาสิโนออนไลน์ ล็อตเตอรี่ออนไลน์ และการพนันกีฬาออนไลน์ โดยมูลค่าในปี 2023 การพนันกีฬาออนไลน์จะมีมูลค่ามากสุดคือ 43.55 พันล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย คาสิโนออนไลน์ 34.80 พันล้านดอลลาร์ และล็อตเตอรี่ออนไลน์ 16.7 พันล้านดอลลาร์ โดยแนวโน้มการเติบโตก็ยังมีสัดส่วนใกล้เคียงกันในทุกประเภท

การพนันออนไลน์เป็นเรื่องถูกกฎหมายในบางประเทศ เช่น สหราชอาณาจักรที่ได้ปรับเปลี่ยนกฎหมายในปี 2003 เพื่อให้ทันสมัยและสอดคล้องกับเทคโนโลยี รัฐบาลได้จัดตั้ง UK Gambling Commission เพื่อควบคุมอุตสาหกรรมโดยเน้นความยุติธรรม ความปลอดภัย และการป้องกันอันตรายต่อเด็กและผู้ใหญ่ที่เปราะบาง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีสถานการณ์ที่ซับซ้อน โดยขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละรัฐ แม้ว่าจะมีเพียง 7 รัฐที่อนุญาตการพนันออนไลน์ แต่ผู้เล่นในรัฐอื่นๆ มักไม่ถูกลงโทษหากเล่นผ่านผู้ให้บริการจากต่างประเทศ

ในยุโรป การพนันออนไลน์ได้รับอนุญาตในหลายประเทศของสหภาพยุโรป โดยแต่ละประเทศสามารถกำหนดกฎหมายได้ภายใต้ข้อบังคับของ TEFU ขณะที่ในส่วนอื่นของโลก การพนันออนไลน์ยังคงถูกห้ามในหลายประเทศ เช่น ตะวันออกกลางและบางส่วนของเอเชีย เช่น สิงคโปร์และจีน แต่ญี่ปุ่นเริ่มมีแนวโน้มผ่อนคลายกฎหมาย ในขณะที่ออสเตรเลียมีการออกกฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับคาสิโนออนไลน์

สำหรับในอาเซียน หลายประเทศได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อจัดการกับปัญหาการพนันออนไลน์ที่มีความซับซ้อน โดยมีทั้งการสั่งห้ามการพนันออนไลน์ เช่น กัมพูชาที่ห้ามตั้งแต่ปี 2019 และฟิลิปปินส์ที่สั่งห้ามการดำเนินงานของ POGO (Philippine Offshore Gaming Operator) รวมถึงการปราบปรามและจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการบุกค้นสถานที่ต้องสงสัย หรือการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและการหลอกลวงผ่านการพนันออนไลน์ 

ขณะที่อินโดนีเซียก็เผชิญกับปัญหาการติดการพนันออนไลน์อย่างรุนแรง โดยกำลังพยายามควบคุมและปราบปรามอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงการปิดกั้นเว็บไซต์นับแสนรายการ และการควบคุมทางการเงินด้วยการตรวจสอบและอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการพนันเพื่อป้องกันการฟอกเงิน และโรงพยาบาลในอินโดนีเซียได้เริ่มให้การรักษาผู้ติดการพนันอย่างจริงจัง

นอกจากนี้ ประเทศในอาเซียนยังให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยในการประชุมอาเซียนที่ลาว มีการเน้นย้ำให้ความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อต่อต้านการพนันออนไลน์ ซึ่งถูกมองว่าเป็น “ภัยคุกคามระดับภูมิภาค” รวมถึงการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบของการพนันออนไลน์

ฟิลิปปินส์เป็นตัวอย่างประเทศที่น่าศึกษาเพราะเคยอนุญาตให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ภายใต้การดำเนินการของ POGO ซึ่งหมายถึง บริษัทหรือหน่วยงานที่ให้บริการเกมออนไลน์ โดยส่วนใหญ่เป็นบริษัทต่างชาติ POGO มักถูกมองว่าเป็นคาสิโนออนไลน์ ที่ดำเนินการในฟิลิปปินส์แต่มีเป้าหมายเป็นลูกค้าต่างชาติเป็นหลัก โดยเฉพาะชาวจีน

แต่ POGO ได้กลายเป็นแหล่งของอาชญากรรม เช่น การลักพาตัว การค้ามนุษย์ และการฟอกเงินผ่านคาสิโนออนไลน์ ส่งผลกระทบต่อสังคมในรูปแบบของการติดการพนัน การเป็นหนี้ และปัญหาครอบครัว แม้ว่าในระยะแรกจะสร้างรายได้ให้ประเทศ แต่ผลกระทบด้านลบกลับมีมากกว่า อีกทั้งยังมีความกังวลด้านความมั่นคง เช่น การจารกรรมจากจีน และความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เกิดจากค่าใช้จ่ายในการจัดการปัญหาเหล่านี้

ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ จึงตัดสินใจเลือกที่จะแบน POGO อย่างเป็นทางการเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อหยุดกิจกรรมผิดกฎหมายและแก้ปัญหาทางสังคม แม้จะส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และตลาดแรงงาน แต่รัฐบาลมุ่งเน้นการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน เช่น การผลิต และการเกษตร ฟิลิปปินส์ยังได้ร่วมมือกับประเทศในอาเซียนเพื่อจัดการกับปัญหาการพนันออนไลน์ในระดับภูมิภาค สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง

แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีการแบน POGO อย่างเป็นทางการ แต่ก็มีความกังวลว่าผู้ประกอบการอาจย้ายไปดำเนินการใต้ดินหรือแอบอ้างเป็นธุรกิจอื่น นอกจากนี้ ยังมีความท้าทายในการควบคุมการพนันออนไลน์ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น คริปโทเคอร์เรนซี และ AI อย่างไรก็ตาม การแบน POGO ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่ในฟิลิปปินส์ เพราะเห็นว่าผลเสียของ POGO มีมากกว่าผลดี

บทเรียนของฟิลิปปินส์ และอีกหลายประเทศ ที่อนุญาตให้การพนันออนไลน์เป็นสิ่งถูกกฎหมาย แล้วสร้างปัญหาในด้านอาชญากรรม เศรษฐกิจ และสังคม ตามมามากมาย น่าจะเป็นสิ่งที่รัฐบาลควรศึกษา

ทุกวันนี้เรากำลังเผชิญปัญหาเรื่องคอลเซ็นเตอร์ เรื่องคนถูกหลอกบนโลกออนไลน์ เรื่องปัญหาธุรกิจสีเทา แต่หลายนโยบายของรัฐบาลกลับกลายเป็นการส่งเสริมธุรกิจเทา โยงใยกับการฟอกเงินให้ง่ายขึ้น ทั้งการจะเปิดคาสิโน การทำให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย รวมทั้งการจะทำให้เงินดิจิทัลหรือคริปโทฯ สามารถใช้ในการชำระสินค้าได้ 

โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากแต่ศักยภาพการแข่งขันของประเทศเราต่ำลง เราต้องสร้างและพัฒนาคน วางนโยบายการศึกษา ให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานมีศักยภาพในการทำงานในอนาคต ไม่ใช่มาหารายได้จากธุรกิจสีเทา เราต้องสอนให้คนมุ่งเน้นสร้างรายได้จากความรู้ใหม่ มุ่งสร้างนวัตกรรมที่ดี ไม่ใช่ให้คนมาหมกมุ่นกับการหารายได้ในวงการพนัน หรือเทรดคริปโทฯ 

-คิดผิดคิดใหม่ได้นะครับ 

You may also like

The-Perspective แหล่งรวมองค์ความรู้ มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ เกาะติดข่าวสารคาดการณ์อนาคต

Tel:  081-619-9494
Email:
editor@the-perspective.co
naiyanaone@gmail.com

Total Visit:

338,934

338,934

Editors' Picks

Latest Posts

The-Perspective © All Right Reserved.

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเก็บข้อมูลและรวบรวมสถิติวิจัยทางด้านการตลาด การวิเคราะห์แนวโน้ม ตลอดจนนำมาปรับปรุง และควบคุมการทำงานของเว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอม ท่านยังสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้ปกติ ยอมรับทั้งหมด