Home » ทำไม ESG Profile จึงสำคัญต่อการขับเคลื่อนธุรกิจ SMEs

ทำไม ESG Profile จึงสำคัญต่อการขับเคลื่อนธุรกิจ SMEs

323 views

บทความโดย ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ ประธานสถาบันไทยพัฒน์

หากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนการดำเนินธุรกิจไม่ว่าจะองค์กรขนาดใหญ่ หรือ SMEs  ต่างต้องมีเอกสารสำคัญ 2 ชิ้น ที่ใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนธุรกิจ นั่นคือ Product Catalogue และ Company Profile แต่ปัจจุบัน กล่าวได้ว่า ESG Profile เป็นเครื่องมือชิ้นที่ 3 ในการดำเนินธุรกิจไปแล้ว

ทั้งนี้เนื่องจากประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อภาคธุรกิจอย่างเข้มข้น และกระทบกับกิจการในทุกขนาดทุกสาขา ไม่จำกัดอยู่เพียงบรรษัทขนาดใหญ่ หรือบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ยังครอบคลุมถึงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยเฉพาะกิจการซึ่งอยู่ในห่วงโซ่อุปทานที่มีบริษัทรายใหญ่ดำเนินการเรื่อง ESG ซึ่งได้ผลักดันให้คู่ค้าต้องดำเนินการในเรื่องนี้ด้วย

ปัจจุบัน SMEs จึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับเอกสารทั้ง 3 ชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นมีหน้าที่แตกต่างกัน แต่เสริมบทบาทในทางธุริกจซึ่งกันและกัน โดยหน้าที่หลักของเอกสาร 3 ชิ้น มีดังนี้

  1. Product Catalogue มีหน้าที่ทำให้คนรู้ว่า เราขายอะไร (What) ผลิตภัณฑ์ของเราช่วยแก้ปัญหาอะไรให้ท่าน หรือใช้แล้วจะได้ประโยชน์อะไร พร้อมสรรพคุณกำกับว่า สินค้าและบริการของเรามีดีและโดดเด่นกว่าเจ้าอื่นอย่างไร
  2. Company Profile มีหน้าที่ทำให้คนเชื่อมั่นว่า ทำไม (Why) ต้องซื้อจากเรา องค์กรของเราน่าเชื่อถือและมั่นคงอย่างไร มีขอบข่ายการให้บริการกว้างขวางขนาดไหน และเมื่อเป็นลูกค้าแล้ว ย่อมไว้วางใจได้อย่างแน่นอน
  3. ESG Profile มีหน้าที่สร้างความเชื่อมั่นให้ผลิตภัณฑ์และองค์กร ในมุมมองของการแสดงถึงผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการกำกับดูแลที่ดีของกิจการ ที่เรียกรวมว่าข้อมูล ESG (Environmental, Social and Governance)

ESG Profile มักจัดทำในรูปของรายงานที่เรียกกันว่า Sustainability Report หรือ ESG Report ซึ่งในอดีตมักจะมีให้เห็นแต่เฉพาะองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งมีกิจการนับหมื่นแห่งทั่วโลกที่ดำเนินการจัดทำรายงานเผยแพร่ดังกล่าว

แต่ปัจจุบันใช่ว่า SMEs จะมีข้อมูลหรือจัดทำเอกสารประเภทนี้ไม่ได้ เพียงแต่เรายังไม่ค่อยเห็น SMEs ส่วนใหญ่ให้ความสนใจมากนัก สาเหตุหลักก็คงเป็นเพราะขาดแรงจูงใจหรือไม่เห็น Benefits มากเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับเวลาและทรัพยากรที่ต้องใช้และมีอยู่ค่อนข้างจำกัดอยู่แล้ว

ทว่าก็มี SMEs หลายแห่งที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงประโยชน์ทางธุรกิจต่อการเผยแพร่ข้อมูล ESG ดังกล่าว เพียงแต่ไม่ได้ทำในรูปแบบที่เป็นทางการ ดังเช่นรายงานแห่งความยั่งยืนในองค์กรขนาดใหญ่ แต่เราสามารถเรียกได้ว่าเป็นการเผยแพร่ “ข้อมูลเด่นด้าน ESG” หรือ ESG Profile เพื่อตอบโจทย์ทั้งทางธุรกิจที่สะท้อนในรูปของกำไร (Profit) และผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม (People and Planet) ควบคู่ไปพร้อมกัน

ESG Profile ในองค์กรขนาดกลางและขนาดเล็กอย่าง SMEs จึงมีหน้าที่ในการทำให้คนรู้ว่า ผลิตภัณฑ์และองค์กรที่เขาเหล่านั้นใช้บริการอยู่ ไม่สร้างผลลบ และ/หรือ สร้างผลบวกให้แก่สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง (how good)

เมื่อพิจารณาเทียบกับ Product Catalogue ซึ่งมีข้อมูลที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ (สินค้าและบริการ) เป็นหลัก หรือใน Company Profile ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทและสายผลิตภัณฑ์ในภาพรวม เนื้อหาในเอกสารประเภท ESG Profile จะให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับผลดีหรือผลกระทบในเชิงบวกของผลิตภัณฑ์และองค์กรที่มีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการแก้ไข (หรือคำมั่นว่าจะแก้ไข) ผลเสียหรือผลกระทบในเชิงลบที่ผ่านมาของกิจการ

ในทางปฏิบัติ เราอาจรวมข้อมูลใน ESG Profile ไว้ในเอกสาร Product Catalogue หรือ Company Profile ด้วยได้ แต่เนื่องจากเรื่องความยั่งยืนในทุกวันนี้ ได้รับความสนใจจากสังคม และผู้บริโภคก็มีความตื่นตัวมาก การเน้นให้ความสำคัญกับข้อมูลนี้ ด้วยการแยกเป็นเอกสาร ESG Profile จึงเป็นเรื่องที่หลายองค์กรดำเนินการเพื่อตอบสนองต่อกระแส ESG ดังกล่าว

ออพิมัส ที่ปรึกษาด้านการจัดการลงทุนในตลาดทุนทั่วโลก คาดการณ์ว่า ตลาดบริการข้อมูลด้าน ESG ทั่วโลก จะมีมูลค่าอยู่ที่ 1.59 พันล้านเหรียญในปี พ.ศ. 2566 โดยจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ในช่วง 5 ปี (พ.ศ.2564 – 2568) อยู่ที่ร้อยละ 23 ต่อปี ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยด้านบริการข้อมูล ESG ของบริษัทนอกตลาด (Private Markets) รวมถึง SMEs จะมีตัวเลขสูงถึงร้อยละ 42 ต่อปี ในช่วงเดียวกัน (ข้อมูลจาก: https://www.opimas.com/research/898/detail/)

สุดท้ายนี้จึงตอบคำถามได้ว่า “ทำไม ESG Profile จึงสำคัญต่อการขับเคลื่อนธุรกิจ SMEs” นั่นก็เพราะ ESG Profile พัฒนามาเป็นแค็ตตาล็อกทางธุรกิจอันทรงคุณค่าของกิจการ ที่ทำให้คู่ค้า/ลูกค้า รู้ว่าองค์กรของเรามีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี

อีกทั้งยังสามารถสร้างเป็นจุดขาย และการต่อยอดธุรกิจ ด้วยการค้นหาจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ในเชิง ESG การแปลงจุดด้อยของผลิตภัณฑ์ให้เป็นโอกาสทาง ESG และการค้นหาตลาดใหม่จากการสำรวจความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียในกลุ่มต่างๆ ของกิจการได้ต่อไป

You may also like

The-Perspective แหล่งรวมองค์ความรู้ มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ เกาะติดข่าวสารคาดการณ์อนาคต

Tel:  081-619-9494
Email:
editor@the-perspective.co
naiyanaone@gmail.com

Total Visit:

154,223

154,223

Editors' Picks

Latest Posts

The-Perspective © All Right Reserved.

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเก็บข้อมูลและรวบรวมสถิติวิจัยทางด้านการตลาด การวิเคราะห์แนวโน้ม ตลอดจนนำมาปรับปรุง และควบคุมการทำงานของเว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอม ท่านยังสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้ปกติ ยอมรับทั้งหมด