Home » ธุรกิจใน APAC กำลังย้ายไปสู่คนรุ่นใหม่

ธุรกิจใน APAC กำลังย้ายไปสู่คนรุ่นใหม่

โดย กองบรรณาธิการ
128 views

รายงานโดย Raffles Family Office และ Campden Wealth พบ 47% ของสำนักงานธุรกิจครอบครัวใน APAC จะอยู่ภายใต้การควบคุมของคนรุ่นใหม่ภายใน 5 ปี และมีเพียง 56% ที่รู้สึกพร้อมสืบทอดธุรกิจ

การสำรวจในรายงานสำนักงานธุรกิจครอบครัวในเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2023 ที่จัดทำอย่างครอบคลุมโดย Raffles Family Office และ Campden Wealth พบว่าสำนักงานธุรกิจครอบครัวในเอเชียแปซิฟิก (APAC) ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นตัวและปรับตัวในการรับมือกับอุตสาหกรรมการเงินที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้อย่างน่าทึ่ง

สำนักงานธุรกิจครอบครัวใน APAC ส่วนใหญ่รายงานว่ามีการเติบโตของสินทรัพย์
รายงานพบว่า 58% ของสำนักงานธุรกิจครอบครัวในเอเชียแปซิฟิกได้รายงานว่ามีการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) โดยสำนักงานธุรกิจครอบครัวในภูมิภาคนี้ได้นำกลยุทธ์การจัดสรรสินทรัพย์ที่ล้ำสมัยมาใช้เพื่อรับมือกับผลกระทบจากเงินเฟ้อและอัตราต่าง ๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น การย่นระยะเวลาของพอร์ตโฟลิโอตราสารหนี้ที่จ่ายรายได้แบบคงที่ การลดการปล่อยกู้ และการเพิ่มการเข้าถึงหุ้น

Chi-man Kwan ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มบริษัท Raffles Family Office กล่าวว่า สำนักงานธุรกิจครอบครัวในเอเชียแปซิฟิกกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว รายงานของเราได้เน้นให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นตัวและปรับตัวของสำนักงานธุรกิจครอบครัวเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการจัดสรรสินทรัพย์และการนำเทคโนโลยีมาใช้”

ตัวเลขเกี่ยวกับการเปลี่ยนรุ่นและการวางแผนสืบทอดสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
ปัจจุบัน ราว 15% ของสำนักงานธุรกิจครอบครัวในเอเชียแปซิฟิกอยู่ภายใต้การควบคุมของคนรุ่นใหม่ โดยในอีกห้าปีข้างหน้า คาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 47% ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการเปลี่ยนรุ่นการบริหาร และแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ แต่มีสำนักงานธุรกิจครอบครัวเพียง 56% เท่านั้นที่รู้สึกว่าพร้อมสำหรับการสืบทอด

“การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต่อการลงทุนและกลยุทธ์การบริหารจัดการในภูมิภาค แสดงให้เห็นถึงการเริ่มยุคใหม่ของสำนักงานธุรกิจครอบครัวในเอเชียแปซิฟิก” Kwan กล่าวเสริม

อสังหาริมทรัพย์ได้รับความนิยมสูงสุดในการลงทุน ขณะที่สำนักงานธุรกิจครอบครัวยังคงเปิดรับการนำเทคโนโลยีมาใช้
อสังหาริมทรัพย์เป็นหมวดหมู่ที่ได้รับความนิยมสำหรับการลงทุนในอนาคต โดย 39% ของสำนักงานธุรกิจครอบครัวใน APAC ตั้งใจที่จะเพิ่มสัดส่วนในการลงทุนให้มากขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น 32% ยังมีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางในการลงทุนที่มีความหลากหลายมากขึ้น

นอกจากนี้ยังปรากฏว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจมากที่สุด โดย 32% ของสำนักงานธุรกิจครอบครัวตั้งใจที่จะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้มากขึ้น และน่าสังเกตว่า 45% ของสำนักงานธุรกิจครอบครัวเห็นด้วยว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนจะเข้ามามีส่วนในการสร้างมูลค่าอย่างมาก

พื้นที่สำหรับประสิทธิภาพและการสื่อสาร
จากมุมมองด้านการดำเนินงาน รายงานพบว่าการนำแพลตฟอร์มการรวมความมั่งคั่งที่ค่อนข้างใหม่มาใช้ ซึ่งสามารถให้ภาพรวมของสถานะทางการเงินขององค์กรโดยการรวบรวมข้อมูลจากธนาคารและผู้จัดการการลงทุนหลายแห่ง ยังมีค่อนข้างต่ำ ปัจจุบัน มีสำนักงานธุรกิจครอบครัวเพียง 30% เท่านั้นที่แสดงความต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มเหล่านี้ แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

Adam Ratner ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Campden Wealth กล่าวว่า “สำนักงานธุรกิจครอบครัวเหล่านี้ตระหนักถึงมูลค่าที่พวกเขาจะได้รับจากแพลตฟอร์มรวบรวมความมั่งคั่งที่นำมาปรับให้เหมาะกับความต้องการ อย่างไรก็ตาม การนำมาใช้ที่ยังช้าอยู่ในช่วงเริ่มต้นอาจเป็นเพราะเครื่องมีเหล่านี้ยังมีความใหม่และมีต้นทุนที่สูง”

รายงานนี้อิงจากการวิเคราะห์ทางสถิติของการตอบแบบสำรวจ 330 ชุดจากสำนักงานธุรกิจครอบครัวที่บริหารจัดการธุรกิจให้ครอบครัวเดียวและสำนักงานธุรกิจครอบครัวเอกชน (ที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์) ที่บริหารจัดการธุรกิจให้กับหลายจากทั่วโลก โดยเฉลี่ยแล้ว ครอบครัวในเอเชียแปซิฟิกที่เข้าร่วมการสำรวจนี้มีความมั่งคั่งรวม 0.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และความมั่งคั่งรวมของพวกเขาอยู่ที่ 68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำนักงานธุรกิจครอบครัวของพวกเขามี AUM โดยเฉลี่ย 0.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ AUM รวมอยู่ที่ 41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มที่: 

You may also like

The-Perspective แหล่งรวมองค์ความรู้ มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ เกาะติดข่าวสารคาดการณ์อนาคต

Tel:  081-619-9494
Email:
editor@the-perspective.co
naiyanaone@gmail.com

Total Visit:

N/A

Editors' Picks

Latest Posts

The-Perspective © All Right Reserved.

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเก็บข้อมูลและรวบรวมสถิติวิจัยทางด้านการตลาด การวิเคราะห์แนวโน้ม ตลอดจนนำมาปรับปรุง และควบคุมการทำงานของเว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอม ท่านยังสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้ปกติ ยอมรับทั้งหมด