Home » ผลสำรวจเผยองค์กรในไทยมีความมั่นใจในระบบการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์เพิ่มขึ้น

ผลสำรวจเผยองค์กรในไทยมีความมั่นใจในระบบการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์เพิ่มขึ้น

โดย กองบรรณาธิการ
321 views

เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ ได้เปิดเผยผลสำรวจสถานการณ์ระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ในอาเซียน ปี 2566 ระบุว่า ประเทศไทยพบปัญหา “การโจมตีที่สร้างความเสียหายอย่างหนัก” ในปริมาณน้อยที่สุด หรือราว 22%

ดร. ธัชพล โปษยานนท์ ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและอินโดจีน พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ กล่าวว่า “ความมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยชี้ให้เห็นว่า ธุรกิจได้วางแนวทางที่ยืดหยุ่นในการรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีรูปแบบซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยไทยได้รับ “ผลจากการโจมตีที่สร้างความเสียหายอย่างหนัก” ในปริมาณน้อยที่สุด (22%) แต่ก็มีการเพิ่มงบประมาณด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์น้อยที่สุดเช่นกันเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั้งนี้เพราะองค์กรต่างๆ ในไทยได้เตรียมตัวมาเป็นเวลาหลายปีจนเห็นผลลัพธ์จากการลงทุนในด้านดังกล่าว อย่างไรก็ดี ระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับผู้บริหาร เพราะอาชญกรไซเบอร์เองก็เดินหน้าปรับตัวและใช้เทคนิคต่างๆ ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นเช่นกัน”

ภัยไซเบอร์ที่องค์กรไทยกังวลมากที่สุด 3 อันดับแรก

การโจมตีที่องค์กรในไทยมีความกังวลมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ มัลแวร์ (57%) และการเข้าควบคุมบัญชีผู้ใช้ (57%) และการโจมตีรหัสผ่าน (53%) ภายใต้สถานการณ์ที่ต้องพึ่งพาบริการและแอปพลิเคชันระบบคลาวด์มากขึ้น ธุรกิจในไทยระบุว่า ปัญหาสำคัญด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่ตนเองต้องเผชิญหน้าก็คือ ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากอุปกรณ์ IoT ที่ไม่ปลอดภัย (54%) ความจำเป็นที่ต้องจัดซื้อโซลูชันระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์หลากหลายรูปแบบ (47%) และการทำธุรกรรมดิจิทัลกับบุคคลภายนอก (47%)

อย่างไรก็ดีหากเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียนพบว่า ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างดีในด้านการเผชิญความเสี่ยงเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์และการยกระดับทักษะในด้านนี้ โดยมีองค์กรเพียง 37% เท่านั้นที่มองว่าภัยคุกคามทางไซเบอร์อยู่ในระดับสูงหรือสูงมาก และถือเป็นอัตราส่วนที่ต่ำที่สุดในอาเซียน

ขณะที่องค์กรในไทยที่มองว่าเกิดการโจมตีที่สร้างความเสียหายอย่างหนักเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% นั้น มีจำนวนอยู่เพียงราว 22% ขององค์กรทั้งหมดที่มีความมั่นใจในการติดตามปัญหาระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งนับว่าเป็นอัตราส่วนที่ต่ำที่สุดในอาเซียน

ไทยเชื่อมั่นมาตรการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์

ส่วนในระดับประเทศนั้น ไทยถือว่ามีความมั่นใจค่อนข้างสูงที่ 87% ว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ในปัจจุบันจะปกป้องภัยคุกคามได้ อีกทั้งไทยยังมีคะแนนนำในด้านทักษะระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์พื้นฐาน โดยธุรกิจกว่า 78% มีการฝึกอบรมเรื่องนี้แก่พนักงานอย่างเป็นทางการ

ระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ยังคงเป็นภารกิจที่ธุรกิจในไทยให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา องค์กรในไทยราว 38% เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีการพูดถึงระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ทุกเดือน นอกจากนี้ธุรกิจในไทยราว 49% ยังได้เพิ่มงบประมาณด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์เพราะต้องการปรับปรุงการดำเนินงาน (54%) มีการออกหรือปรับกฎระเบียบใหม่ตามกฎหมายด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (44%) เพื่อเดินหน้าเปลี่ยนแปลงกระบวนการสู่ดิจิทัลมากขึ้น (37%) และเนื่องจากสภาพการณ์ของภัยคุกคามมีการเปลี่ยนแปลง (37%)

กลยุทธ์ด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์

กลยุทธ์ด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่สำคัญที่สุด 3 อันดับแรกในไทย ประกอบด้วย การรักษาความปลอดภัยแก่ IoT/OT (43%) การยกเครื่องระบบตรวจจับภัยคุกคามและระบบ/แพลตฟอร์มตรวจหาพฤติการณ์ที่สัมพันธ์ (40%) การจัดการตัวตนและการเข้าถึงระบบ (38%) รวมถึงกลยุทธ์การประสานงาน การรับมือ และระบบอัตโนมัติด้านการรักษาความปลอดภัย (SOAR) สำหรับ SOC  (38%)

การผสานการทำงานกับ AI เป็นเทคโนโลยีที่ธุรกิจต่างๆ กำลังเตรียมติดตั้งในเร็วๆ นี้ ทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในไทย (56%) โดยธุรกิจด้านโทรคมนาคม/เทคโนโลยี/สื่อสาร ให้ความสนใจในการนำ AI เข้ามาใช้มากที่สุดในภูมิภาค และคาดว่าจะเติบโตในอัตราที่เร็วขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ข้อมูลที่น่าสนใจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไทย

  • องค์กรในไทยต้องเผชิญกับปัญหาด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์หลักสามประการ ได้แก่
    • อุปกรณ์ IoT ที่ขาดการตรวจสอบติดตามและไม่ได้รับการปกป้องให้ปลอดภัย (54%)
    • ต้องจัดซื้อโซลูชันระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์หลากหลายรูปแบบ (47%)
    • จำนวนธุรกรรมดิจิทัลกับบุคคลภายนอกที่เพิ่มขึ้น (47%)
  • องค์กรในไทยส่วนใหญ่ที่มีระบบ OT (92%) ระบุว่า ใช้ทีมดูแลระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ให้กับระบบ IT และ OT ร่วมกัน
  • ธุรกิจส่วนใหญ่ระบุว่ามีการใช้กลยุทธ์ 5G ในการทำงาน แต่ก็กังวลเรื่องการปกป้องข้อมูล 5G และการทำงานในระดับแอปพลิเคชัน

ความเสี่ยงด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์

  • องค์กรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกินครึ่ง (52%) มองว่ากำลังเผชิญกับภัยคุกคามด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่สร้างความเสี่ยงในระดับสูง โดยเฉพาะในภาคบริการ (ธนาคารและการเงิน) บริการพื้นฐานสำคัญ และภาคการผลิต
  • องค์กรในไทย 37% (เป็นอัตราส่วนที่ต่ำที่สุดในอาเซียน) มองว่าภัยคุกคามทางไซเบอร์อยู่ในระดับสูงหรือสูงมาก
  • ประเทศไทยพบอุบัติการณ์ในเรื่อง “การโจมตีที่สร้างความเสียหายอย่างหนัก” ในจำนวนที่ลดลงและถือว่าน้อยที่สุดในกลุ่มอาเซียน (22%)
  • มัลแวร์เป็นปัญหาหลักสำหรับองค์กรต่างๆ ทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไทย คิดเป็นราว 60% และ 57% ตามลำดับ

การพิจารณาในระดับผู้บริหารและงบประมาณด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์

  • องค์กรในอาเซียนราว 80% ระบุว่า มีการพูดถึงเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ในที่ประชุมคณะกรรมการทุกไตรมาส องค์กรในไทยที่มีวาระเรื่องนี้ใกล้เคียงกันที่ 79% 
  • องค์กรราว 66% ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มงบประมาณด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ในปี 2566 ขณะที่ในไทยมีเพียงราว 49% ที่ดำเนินการแบบเดียวกัน
  • องค์กรราว 29% ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระบุว่า มีการเพิ่มงบประมาณมากกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับงบประมาณปี 2565

สถานการณ์ด้านระบบรักษาความปลอดภัย

  • องค์กรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่าครึ่งหนึ่ง (53%) กำลังพิจารณาที่จะนำ AI เข้ามาใช้เป็นเทคโนโลยีหลักเพื่อลดความเสี่ยงทางไซเบอร์
  • กลยุทธ์ด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่สำคัญ 3 ลำดับแรกในไทย ได้แก่
    • การปกป้อง IoT/OT (43%)
    • การยกเครื่องระบบตรวจจับภัยคุกคามและระบบ/แพลตฟอร์มตรวจหาพฤติการณ์ที่สัมพันธ์ (40%)
    • การจัดการตัวตนและการเข้าถึงระบบ (38%)
    • กลยุทธ์การประสานงาน การรับมือ และระบบอัตโนมัติด้านการรักษาความปลอดภัย (SOAR) สำหรับ SOC (38%)
  • ส่วนในด้านอื่นๆ ที่องค์กรให้ความสำคัญก็เช่น การปกป้องอุปกรณ์ปลายทางและการใช้กลยุทธ์ SASE

หมายเหตุ การสำรวจครั้งนี้ดำเนินการทางออนไลน์ในเดือนเมษายน 2566 ร่วมกับผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอทีขององค์กรและผู้นำธุรกิจรวมทั้งสิ้น 500 คน ในห้าอุตสาหกรรมหลักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ด้านบริการ (ธนาคาร การเงิน), รัฐบาล/ภาครัฐ/บริการพื้นฐาน โทรคมนาคม/เทคโนโลยี/สื่อสาร ภาคค้าปลีก/โรงแรม/อาหารและเครื่องดื่ม ขนส่งและโลจิสติกส์ และภาคการผลิต โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามประเทศละ 100 คน ทั้งจากสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย

You may also like

The-Perspective แหล่งรวมองค์ความรู้ มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ เกาะติดข่าวสารคาดการณ์อนาคต

Tel:  081-619-9494
Email:
editor@the-perspective.co
naiyanaone@gmail.com

Total Visit:

193,163

193,163

Editors' Picks

Latest Posts

The-Perspective © All Right Reserved.

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเก็บข้อมูลและรวบรวมสถิติวิจัยทางด้านการตลาด การวิเคราะห์แนวโน้ม ตลอดจนนำมาปรับปรุง และควบคุมการทำงานของเว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอม ท่านยังสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้ปกติ ยอมรับทั้งหมด