ผู้เขียน: 2 Cents
เอกวาดอร์อีกหนึ่งดินแดนแห่งภูเขาไฟ เอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ ทะเลสาบบนยอดภูเขาไฟเมื่อแดดส่องเห็นน้ำในทะเลสาบเป็นสีเขียวสวยงาม
นอกจากเดินเที่ยวเมืองเก่า ช่วงที่อยู่ Quito เราไปภูเขาไฟ Cotopaxi ทะเลสาบ Quilotoa อนุสาวรีย์เส้นศูนย์สูตร (Ciudad Mitad del Mundo) และพิพิธภัณฑ์เส้นศูนย์ (Intiñan Equator Museum) เราซื้อทัวร์ไป Cotopaxi และทะเลสาบ Quilotoa เป็นทัวร์เดียวกัน ใช้เวลาทั้งวันตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่งถึงเกือบทุ่ม ราคาคนละ $55 ไม่รวมอาหารกลางวัน
ส่วนอนุสาวรีย์และพิพิธภัณฑ์เส้นศูนย์สูตรเป็นอีกทัวร์หนึ่ง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ราคาคนละ $10 ไม่รวมค่าเข้า
เอกวาดอร์เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟ ไกด์บอกว่ามีภูเขาไฟทั้งหมด 80 กว่าลูก ส่วนมากจะดับไปแล้ว มีที่ยัง active หรืออาจจะ active อยู่ 27 ลูก
บริเวณใกล้ๆ Quito (อ่านว่า คีโต้, คีโตะ) มีภูเขาไฟอยู่ 5 ลูก ภูเขาไฟ Cotopaxi คือหนึ่งในนั้น ทัวร์มารับตอนเจ็ดโมงครึ่งโรงแรมใกล้ๆ ที่พักเราเดินไปประมาณ 10 นาที จาก Quito ไป Cotopaxi ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ระหว่างที่นั่งรถไปไกด์ชี้ให้ดูทั้ง 4 ลูกที่ไม่ใช่ Cotopaxi ทัวร์แวะให้กินอาหารเช้าที่ร้านเล็กๆ ใน Cotopaxi
(จากภาพ: เส้นทางจาก Quito ไปภูเขาไฟ Cotopaxi และทะเลสาบ Quilotoa รูปจาก Google Map)
Cotopaxi เป็น active volcano ที่ระเบิดครั้งสุดท้ายเมื่อ เดือน มค. 2016 และเป็นภูเขาไฟที่สูงเป็นอันดับสองของเอกวาดอร์ วันที่อากาศดีจะสามารถมองเห็น Cotopaxi จาก Quito
บริเวณที่ทัวร์พาไปดูเป็นบึงชื่อ Limpiopungo Lagoon อยู่ที่ระดับความสูง 12,000 ฟุต ไกด์พาเดิน trail ยาว 2.5 กม ไปกลับ 5 กิโลเมตร แต่ทางส่วนมากเรียบไม่รู้สึกอะไร ระหว่างทางไกด์ก็ชี้ให้ดูสัตว์ ดูต้นไม้ต่างๆ แล้วก็อธิบายว่ามันใช้ทำอะไรได้บ้าง
(จากภาพ: ภูเขาไฟ Cotapaxi และ Limpiopungo Lagoon)
แถว Cotopaxi มีสัตว์เยอะ โดยเฉพาะม้าป่า กวาง และนก วันนั้นเราเจอม้าป่าหลายฝูง และกวางหลายครอบครัว Cotopaxi ก็เหมือนฟูจิ อ่านรีวิวคนที่มาหลายคนบอกว่าส่วนมากจะไม่ค่อยเห็นยอดเพราะเมฆเยอะ ต้องไปเช้ามากๆ
เราไปถึงประมาณสิบโมง ฟ้าครึ้มไปตลอดทาง ที่ Quito ฝนตกแทบตลอดวัน แต่พอไปถึงแถว Limpiopungo Lagoon ฟ้าเปิด แต่ช่วงที่เห็นยอดชัดที่สุดแบบไม่มีเมฆบังเป็นช่วงที่รถแล่นอยู่ ตอนรถจอด ให้พวกเราลงไปเดินถ่ายรูปเล่นไม่กี่นาทีให้หลังเมฆก็มาแล้ว แต่ได้แค่นี้ก็ขอบคุณแล้ว
หลังจากเดินเล่นแถวนั้นพักใหญ่ๆ เราก็เดินทางต่อไปทะเลสาบ Quilotoa (อ่านว่าคิโลโท) ที่เป็นทะเลสาบบนยอดภูเขาไฟ Quilotoa ที่ระเบิดแล้วเกิดเป็นแอ่ง และแกรนด์แคนยอนของเอกวาดอร์
จาก Cotopaxi ไปทะเลสาบ Quilotoa ใช้เวลาสองชั่วโมงกว่า ระหว่างทางผ่านแคนยอนที่ไกด์บอกว่าเป็น รอยแตกของแผ่นดินที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ Quilotoa เมื่อ 800 ปีที่แล้ว ไกด์บอกว่าอเมริกามีแกรนด์แคนยอน เอกวาดอร์เรามีแคนยอนนี้
Quilotoa Lake เป็นทะเลสาบที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ Quilotoa และเกิดเป็นแอ่งน้ำใน crator ที่เวลามีแดดน้ำในทะเลสาบจะเป็นสีเขียวสวยงาม อ่านรีวิวจะเหมือน Cotopaxi คือส่วนมากจะบอกว่าเมฆเยอะไม่ค่อยเห็นทะเลสาบสีเขียว ตอนเราไปถึงตอนแรกเมฆ/หมอกหนามากมองไม่เห็นทะเลสาบเลย สักพักลมพัดเมฆไปก็พอมองเห็นทะเลสาบ แต่ไม่เห็นเป็นสีเขียวแต่ก็ยังสวยอยู่ดี เราแวะกินข้าวที่นี่ มีร้านอาหารมากมายให้เลือก แต่มีแต่อาหารเอกวาดอร์
(จากภาพ: Quilotoa Lake)
ทั้ง Limpiopungo Lagoon และ Quilotoa Lake ไม่มีปลาเพราะน้ำมีแร่ธาตุสูงมาก Quilotoa อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 13,000 ฟุต เขามี trail ลงไปถึงทะเลสาบ เราเดิน trail ลงไปไม่ถึงครึ่งทาง เดินกลับขึ้นมาเหนื่อยมากกกก
ระหว่างทางกลับ Quito แวะดูแคนยอนแป๊ปนึงก็สวยแปลกตาดี แถมเขาทำบ้านให้น้องไก่อยู่มีบันไดขึ้นบ้านให้เรียบร้อยเลย น่ารักมาก
(จากภาพ: Canyon ระหว่างทางไป Quilotoa Lake)
(จากภาพ: บ้านพักน้องไก่ น่ารักมาก)
โปรดติดตามตอนต่อไป เราจะพาไป อนุสาวรีย์เส้นศูนย์สูตรกันนะคะ
