บทความโดย รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการสถาบันไอเอ็มซี
เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ผมได้อ่านข้อมูลจากผลสำรวจของ McKinsey เรื่อง “สถานะของ AI ในปี 2023: ปีที่เข้าสู่ยุคของ Generative AI” ที่ถูกเผยแพร่ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งมีความคิดเห็นว่า อีกไม่นานเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของ Generative AI (หรือ Gen AI) แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน รายงานนี้นำเสนอข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการนำ Gen AI มาใช้ในการทำงาน รวมไปถึงใช้ในเรื่องส่วนตัว
โดยการสำรวจดำเนินการในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา McKinsey ได้ทำการสำรวจภาคธุรกิจทั่วโลกเพื่อหาความคิดเห็นและข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ Generative AI ในสถานการณ์ต่างๆ ผลสำรวจนี้นำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการนำ Gen AI มาใช้ในองค์กรและสาขาอาชีพต่างๆ
สิ่งที่น่าสังเกตคือ 79% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าเขาได้ทดลองใช้ Gen AI ในการทำงานและใช้ในเรื่องส่วนตัว ซึ่งผมมองว่า “นี่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของ Gen AI ที่จะเป็นเครื่องมือช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพทั้งในด้านธุรกิจและด้านการใช้ชีวิตส่วนตัว”
สำหรับในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกพบว่า เป็นภูมิภาคที่มีการใช้งาน Gen AI มากที่สุด โดยมีการใช้งานอย่างสม่ำเสมอถึง 41% โดย 37% ของผู้บริหารระดับสูงระบุว่าเขาใช้ Gen AI อย่างสม่ำเสมอ และในจำนวนนี้คิดเป็น 13% ที่เน้นการใช้ Gen AI สำหรับเรื่องส่วนตัว
ในการสำรวจยังพบอีกว่า กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการใช้งานประจำมากสุดคือ กลุ่มเทคโนโลยี มีเดีย และโทรคมนาคม ในทางกลับกันกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังไม่มีการใช้ Gen AI อย่างแพร่หลายคือ กลุ่มพลังงาน และด้านสาธารณสุข
ส่วนด้านการคาดการณ์ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามราว 75% คาดการณ์ว่า Gen AI จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในอุตสาหกรรมของพวกเขาในอีก 3 ปีข้างหน้า และยังระบุว่าอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบมากสุดคือ อุตสาหกรรมที่ใช้องค์ความรู้ในการทำงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การธนาคาร ยาและผลิตภัณฑ์การแพทย์ รวมทั้งการศึกษา
สำหรับความคิดเห็นส่วนตัว ผมเชื่อว่า Generative AI อย่าง ChatGPT จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของโลก เสมือนเมื่อช่วงที่โลกเข้าสู่ยุคอินเทอร์เน็ตใหม่ๆ คนจำนวนหนึ่งยังไม่คุ้นเคยกับมัน และไม่ใส่ใจที่จะใช้ จนผ่านไปไม่กี่ปีผู้คนก็ค้นพบว่า เราจะไม่สามารถทำงานและใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้ถ้าไม่มีอินเทอร์เน็ต
Generative AI เช่น ChatGPT ไม่ได้มาแย่งงานคน แต่จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในหลายด้าน คนที่ไม่เข้าใจการใช้งานและไม่พยายามเรียนรู้มัน อาจพบว่าการแข่งขันกับคนที่ใช้ Generative AI จะทำให้ลำบากในอนาคตซึ่งเกิดขึ้นกับทุกสาขาอุตสาหกรรม
ในบทความนี้ผมจึงขอแนะนำการใช้ ChatGPT ในเบื้องต้นเอาไว้ เพื่อให้เกิดไอเดียที่จะเริ่มต้นใช้เจ้า ChatGPT มาเป็นผู้ช่วย มี 6 อย่างในเบื้องต้น ดังนี้
- ช่วยหาคำตอบจากคำถามทั่วไป และแก้โจทย์ที่ซับซ้อน: ChatGPT มีความสามารถในการตอบคำถามทั่วไปแทบทุกประเภทของคำถาม เช่น “ใครเป็นผู้คิดค้นรถยนต์” หรือ “เมืองหลวงของประเทศออสเตรเลียชื่ออะไร” อีกทั้งยังช่วยแก้โจทย์ปัญหาต่างๆ ได้ เช่น โจทย์วิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี รวมไปถึงการแก้ปัญหาในการทำกิจกรรมที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์
- ช่วยให้คำแนะนำ และแสดงความคิดเห็น: สามารถให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ ได้ เช่น แนวคิดในการทำธุรกิจใหม่ นำแนะนำในด้านการตลาด การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แนะนำด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถแสดงความคิดเห็นในงานต่างๆ ได้ด้วย เช่น ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับความหมายของคำศัพท์ ติชมบทความหรือข้อเขียนต่างๆ ให้ความเห็นเกี่ยวกับการใช้ไวยากรณ์และการสร้างประโยค
- ช่วยเขียนเอกสาร และช่วยปรับเปลี่ยนเอกสาร: สามารถเขียนเอกสารต่างๆ ได้ตามความต้องการ เช่น เขียนอีเมล บทความ ช่วยเอกสารรายงาน เขียนสัญญาต่างๆ โดยสามารถระบุได้ว่าต้องการข้อเขียนลักษณะใด ความยาวเท่าไหร่ รวมทั้งยังช่วยแปลเอกสารได้ด้วย นอกจากนี้ยังช่วยสรุปหรือย่อความ ช่วยเขียนบทความใหม่จากบทความที่มีอยู่เดิม
- เป็นผู้ช่วยสนทนาและให้คำปรึกษา: เป็นคู่การสนทนาและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ได้ โดยเป็นการสนทนาที่โต้ตอบกันด้วยตัวอักษร เสมือนว่าเจ้า ChatGPT เป็นมนุษย์คนหนึ่ง เช่น เป็นเพื่อนคุยแลกเปลี่ยนความเห็น ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ ด้านการใช้ชีวิต ความรัก ไปจนถึงการประกอบอาชีพ
- ช่วยสรุปข้อมูล: สามารถช่วยจับประเด็น หรือจับใจความสำคัญ และสามารถสรุปเนื้อหาให้สั้นกระชับลงได้ อีกทั้งยังสามารถตั้งชื่อเรื่องให้น่าสนใจ ตรงประเด็น อีกทั้งยังช่วยสรรหาคำที่สวยหรูเพื่อตั้งชื่อเรื่องได้ด้วย
- ช่วยเขียนและแก้ไขโปรแกรมคอมพิวเตอร์: ใช้ในการเขียนโค้ดหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยสามารถให้ช่วยแก้ไขโค้ดจากภาษาหนึ่งไปเป็นอีกภาษาหนึ่งได้ เช่น แก้จากภาษา Java ไปเป็นภาษา Python และยังช่วยให้ไอเดียในการเขียนโค้ด นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดจากการเขียนโค้ดผิดได้ด้วย
นอกจากนี้ ChatGPT ยังมีความสามารถในด้านอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวไว้ในที่นี้ และจากการที่ ChatGPT มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วก็เชื่อว่าจะขยายขีดความสามารถไปเรื่อยๆ
หากแต่ด้วยความสามารถเพียงเท่าที่กล่าวมานี้ ผมหวังว่าจะช่วยให้คนที่ยังไม่ได้ลองใช้งานได้เกิดความคิดที่จะลองใช้เจ้า ChatGPT กันบ้าง และหากได้ลองใช้แล้วเชื่อว่า มันจะช่วยงานและช่วยเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันในด้านอื่นๆ ได้ด้วย