บทความโดย ทินกร เหล่าเราวิโรจน์ CEO และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ บริษัท นายเน็ต จำกัด

ก้าวหน้าไปอีกสเต็ปกับ เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ChatGPT-4o (โฟร์-โอ) เวอร์ชั่นล่าสุด มาในรูปแบบการเปิดประสาทสัมผัสทั้ง 3 คือ ข้อความ ภาพ และเสียง เหมือนคนไปอีกขั้น
ถึงวันนี้คนส่วนใหญ่รู้จัก ChatGPT โดยหลายคนได้ลองใช้หรือลองสัมผัสกันบ้างแล้ว ซึ่งมีทั้งถูกใจและไม่ถูกใจ จึงต้องยอมรับว่า ChatGPT ยังมีข้อจำกัดอยู่บางประการ ขึ้นกับว่าคุณจะนำมันไม่ใช้อย่างไร
แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ข้อจำกัดบางประการได้ถูกปลดล็อกเมื่อมีการเปิดตัว ChatGPT-4o (เขียน ChatGPT-4.o ก็ได้)
เปิดตัวได้น่าประทับใจ
เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมา บริษัท OpenAI ได้เปิดตัว ChatGPT เวอร์ชั่น 4o (อ่านว่า “สี่-โอ” หรือ “โฟร์-โอ”) ที่ทำให้คนในวงการไอทีต่างทึ่งในความสามารถของมันแต่คนทั่วไปในสังคมอาจยังไม่ค่อยรู้สึกถึงผลกระทบที่กำลังจะเกิดขึ้นมากนัก ว่าทั้งโอกาส และหายนะ กำลังจะมาเยือนทุกคน
เปิดประสาทสัมผัสทั้ง 3
ChatGPT-4o ต่างจากเวอร์ชั่นก่อนหน้าตรงที่เป็นการเปิดประสาทสัมผัสทั้ง ข้อความ ภาพ และเสียง แบบสมบูรณ์ ประมวลผลทุกอย่างไปพร้อมๆ กัน เสมือนเป็นคนหนึ่งคน ที่รับรู้และสื่อสารด้วยประสาทสัมผัสทั้งสาม และโต้ตอบได้ไวกว่าคนกระพริบตา และมีความเหมือนคนเข้าไปทุกที แม้แต่ถ้ามันกำลังตอบอยู่แล้วเราพูดแทรก มันก็จะหยุดฟังคำสั่งใหม่ด้วย
ดังนั้น ChatGPT-4o จะถูกนำมาใช้ในวงกว้างมากขึ้นแน่ๆ ในรูปแบบที่ตอบโจทย์มากขึ้น เช่น ที่เห็นในคลิปเปิดตัว มันถูกเอามาใช้สอนคณิตศาสตร์ให้เด็ก โดยอ่านโจทย์จากลายมือเราบนกระดาษ แล้วสอนเป็นขั้นๆ ให้เราแก้โจทย์ แล้วตรวจคำตอบเราบนกระดาษ และพูดชมเชยเรา เมื่อทำสำเร็จ
ส่วนด้านภาษา มันสามารถแปลภาษาสดๆ ฟังภาษาหนึ่งแล้วพูดออกมาเป็นอีกภาษาหนึ่งทันที หรือแม้แต่การขอให้แต่งเพลงสดๆ แล้วร้องออกมาในแบบที่เราต้องการ เช่น rock หรือ pop หรืออะไรก็ได้ ด้วยเสียงทรงพลังแบบไหน หรือเป็นเสียงกระซิบ ก็สั่งให้ทำได้
เหมือนหนังเรื่อง Her
ในสื่อโซเชียล หลายคนเอาไปเทียบกับหนังเรื่อง Her ในปี 2013 ที่พระเอกของเรื่องคบหาดูใจกับนางเองที่เป็น AI พูดคุย จีบกันไปมา ทั้งที่นางเอกไม่มีตัวตนจริง แต่สื่อสารกันจนได้ความรู้สึกว่าเป็นคนจริงๆ ตลอดเวลา
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกสักปีหนึ่งข้างหน้า เราจะได้เห็นข่าวว่ามีใครสักคนบนโลกใบนี้กำลังคบ ChatGPT เป็นแฟนอยู่หรือไม่
กลยุทธ์ใช้ฟรี
ไม่เพียงแค่มีของดีเท่านั้น แต่รอบนี้ OpenAI ยังเปิดให้ทุกคนใช้งาน ChatGPT เวอร์ชั่นนี้ฟรีเสียด้วย แน่นอนว่าจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่ปรากฏการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้นคือ จะมีคนจำนวนมากที่ไม่เคยใช้ AI มาก่อน เข้ามาเป็น user ใหม่ของระบบนี้แน่ๆ (เหมือนที่เคยทำสถิติได้ 100 ล้าน active user ในเวลาเพียง 2 เดือนหลังเปิดตัวเมื่อต้นปี 2023)
Google ตามหลังห่างๆ
เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลัง ChatGPT-4o เปิดตัว Google ก็เปิดตัว AI เวอร์ชั่นใหม่เช่นกัน ซึ่งมีพลังประมวลผลมากกว่า แต่ส่วนที่เกี่ยวกับการสื่อสารกับผู้ใช้ ทั้งภาพ เสียง และข้อความ ยังไม่ค่อยชัดเจนว่าทำได้เท่ากับ ChatGPT หรือไม่ จึงถูกมองว่า ศึกนี้ Google คงพลาดท่าเสียแล้ว และต้องวิ่งตามให้ทัน ถ้าไม่อยากสูญเสียตลาด search engine ที่ครอบครองอยู่ ไปสู่การถามตอบพูดคุยของผู้ใช้กับ AI บน ChatGPT แทน
โลกนี้ยังไงก็ไม่เหมือนเดิม
AI กำลังเปลี่ยนแปลงโลกที่เรารู้จัก ไปสู่แบบใหม่ที่เรายังไม่คุ้นเคย ทั้งดีกว่า และแย่กว่าแน่ๆ (และเร็วมากๆ ด้วย) ล่าม และติวเตอร์ อาจไม่จำเป็นแล้ว พอๆ กับอาชีพอื่นอีกหลายอาชีพ มือถือที่เราใช้กันอยู่ อีกไม่นานคงออกรุ่นใหม่ที่มี AI ฝังอยู่ด้วย ทำให้ทุกคนต้องเปลี่ยนมือถือ และเราจะเห็นคนเดินคุยกับ AI กันทั่วเมืองไปหมด ดูเผินๆ อาจดูบ้าๆ บอๆ แต่จริงๆ แล้ว คนที่ไม่ใช้ AI ต่างหาก ที่อาจจะบ้ากว่าก็ได้
วันนี้จึงอาจจะกล่าวได้ว่า ถึงเวลาแล้วที่ผู้ใช้อย่างเรา ต้องกระพริบตาให้ไวขึ้น เพื่อจะได้ทันเห็นการเปลี่ยนแปลงของ AI แต่ละค่าย และจะต้องกระพริบตาให้เร็วขึ้นอีกเมื่อทุกค่ายมีเทคโนโลยีที่พร้อมใช้อย่างสมบูรณ์มากกว่านี้ เพราะตอนนั้นการแข่งขันจะรุนแรงแกร่งแย่งผู้ใช้กันอย่างดุเดือด
และถึงเวลาแล้วเช่นกันสำหรับคนที่ยังไม่ได้เป็นผู้ใช้เจ้า AI แชตบอทอัจฉริยะ ซึ่งจะต้องรีบลองใช้ให้เป็น เพราะในอนาคตถ้าใช้มันไม่เป็น คุณจะได้ชื่อว่า “ตกยุค” แม้คุณจะมีดีกรีระดับด็อกเตอร์ หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มากด้วยความรู้ก็ตาม