Home » “Mobile ID ถึงเวลาแล้ว”

“Mobile ID ถึงเวลาแล้ว”

โดย กองบรรณาธิการ
400 views

บทความโดย ทินกร เหล่าเราวิโรจน์ CEO และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ บริษัท นายเน็ต จำกัด

ที่ผ่านมาเราอาจจะคุ้นเคยกับ Digital ID ซึ่งเป็นการยืนยันตัวตนผ่านระบบออนไลน์ แต่มาถึงวันนี้ความก้าวหน้าของการยืนยันตัวตนได้ขยับไปอีกขั้น โดยประชาชนไทยสามารถยืนยันตัวตนผ่านมือถือได้แล้ว ในบทความนี้กล่าวถึงที่มา และความสำคัญ พร้อมกับกรณีตัวอย่างมาให้อ่านแบบครบครัน

ขอเริ่มต้นจากความหมายของ Mobile ID เพื่อให้เข้าใจอย่างชัดเจน
Mobile ID คือบริการรูปแบบหนึ่งของ Digital ID ที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความทันสมัยและปรับตัวในยุคดิจิทัล ให้สามารถใช้เทคโนโลยีแทนบัตรประชาชน

Digital ID คืออะไร สำคัญยังไง

Digital ID หรือ โครงการพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลภาครัฐ คือการใช้ข้อมูลดิจิทัล ที่สามารถระบุตัวบุคคล และใช้ทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ได้ โดยเปิดบริการด้วยการพิสูจน์และยืนยันตัวตนเพียงครั้งเดียว ผ่าน Identity Provider (IdP) ก็สามารถนำไปทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ต่อได้ เพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่าย

ที่มา https://www.dga.or.th/document-sharing/infographic/49450/

ความแตกต่างของผู้ให้บริการ Digital ID ทั้ง 3 ราย

จากผลการศึกษาของ ETDA (สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์)ได้สรุปแนวทางนำ Digital ID มาใช้ในประเทศไทยว่า ควรจัดให้มีผู้ให้บริการมากกว่า 1 ราย เพื่อให้เกิดการแข่งขันให้บริการที่ดี ในราคาเหมาะสม ซึ่งขณะนี้ได้มีผู้ให้บริการทั้งสิ้น 3 ราย ได้แก่

  • Mobile ID ของ  กสทช. (สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจกรรมโทรคมนาคมแห่งชาติ) ที่กำกับดูแลค่ายมือถือ และเปิดบริการ Mobile ID ผ่าน IdP ทางแอปของค่ายมือถือต่างๆ
  • บริการ NDID ของกลุ่มธุรกิจธนาคาร โดยเปิดบริการผ่านแอปพลิเคชั่นของธนาคารต่างๆ และมักใช้กับการทำธุรกรรมธนาคาร เพื่อความสะดวกและรวดเร็วของเจ้าของบัญชี
  • แอป ThaiD ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่ให้ประชาชนใช้เพื่อความสะดวกในการติดต่อทำธุรกรรมหรือขึ้นทะเบียนต่างๆ กับหน่วยงานภาครัฐ ให้ใช้ข้อมูลดิจิทัล แทนการพกบัตรประชาชน
จุดเด่นของ Mobile ID

ด้วยความที่ Mobile ID เป็นบริการของสำนักงาน กสทช. ผู้กำกับดูแลค่ายมือถือ ที่มีข้อมูลเบอร์โทรศัพท์มือถือทั้งหมดในประเทศ ที่ผูกโยงกับข้อมูลบัตรประชาชน ตั้งแต่ตอนที่เปิดเบอร์โทรศัพท์แล้ว ทำให้มีข้อได้เปรียบ และสามารถเชื่อมโยงกับการยืนยันตัวตนโดยการส่ง otp ทำให้มีมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงขึ้น

ทั้งยังเป็นบริการ ที่มีแนวโน้มจะเปิดให้บริการกับผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นรายอื่นๆ เชื่อมโยงระบบ เพื่อใช้บริการในเชิงพาณิชย์ ทำให้เกิดการใช้งาน Digital ID ที่แพร่หลายในหมู่ประชาชนทั่วไปมากยิ่งขึ้น

และเป็นการให้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นของค่ายมือถือ ที่มีฐานผู้ใช้งานแอปอยู่ก่อนแล้ว จึงเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นสำหรับประชาชนทั่วไป

ความพร้อมของ Mobile ID

สำนักงาน กสทช. ได้โปรโมทเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปเปิดบริการ Mobile ID หรือ “แทนบัตร” ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2565 โดยทุกคนสามารถเปิดบริการได้ผ่านจุดบริการของเครือข่ายมือถือที่ใช้อยู่ ทั้ง AIS, True Dtac และ NT

และเมื่อเปิดบริการแล้ว สามารถนำ Mobile ID ไปใช้ได้กับภาคีเครือข่าย ที่ประกอบด้วย การสมัครใช้ใบขับขี่ดิจิทัล DLT QR License กับกรมขนส่งทางบก ยื่นภาษีออนไลน์ E-Filing กับกรมสรรพากร เปิดบัญชีกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดบัญชีลงทุนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และใช้ยืนยันตัวตนในการรับ-ส่งพัสดุ กับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นต้น

ETDA เกี่ยวข้องอย่างไร

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่มีนโยบายสนับสนุนให้เกิดการใช้ Digital  ID อย่างแพร่หลาย โดยคนไทยใช้ Digital ID แล้ว 7.3 ล้านคน ผ่านแอป ThaiD จำนวน 6,021,096 คน แอปเป๋าตังค์ 1.2 ล้านคน และ Mobile ID จำนวน 85,000 คน (ข้อมูล ณ กันยายน พ.ศ.2566)

และได้กำหนดให้การผลักดัน Digital ID เป็น 1 ใน 4 ภารกิจหลักของปี พ.ศ.2567 นี้ด้วย โดยตั้งเป้าผลักดันให้เกิด IdP ที่ได้มาตรฐานไม่น้อยกว่า 24 ราย และเกิดการใช้งานในวงกว้างกับภาคประชาชนมากยิ่งขึ้น

ซึ่งตั้งแต่เริ่มต้น ETDA เป็นหน่วยงานสำคัญที่ริเริ่มศึกษาวิจัย และวางรากฐาน Digital ID ในประเทศไทยมาโดยตลอด อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.etda.or.th/th/Useful-Resource/knowledge-sharing/articles/index-article-other-p1/Digital-ID-ในบรบทประเทศไทย.aspx

ขยายผลสู่ภาคประชาชน

เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขยายผล Digital ID ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น สำนักงาน กสทช. จึงได้จัดโครงการประกวดนวัตกรรม “Mobile ID Innovation Awards” ในการนำระบบบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์โทรศัพท์เคลื่อนที่ (แทนบัตร) ไปใช้งาน

โดยผู้ชนะการประกวดในครั้งนั้น คือ บริษัท นายเน็ต จำกัด ผู้พัฒนาระบบโปรแกรมคลินิกทันตกรรม FD ที่นำเสนอไอเดียการนำ Mobile ID มาใช้ และจัดกิจกรรมส่งเสริมให้นักพัฒนาแอปพลิเคชั่นรายอื่นๆ ได้เรียนรู้ และนำไปต่อยอดให้เกิดการใช้งานแพร่หลายยิ่งขึ้น

กรณีศึกษาโปรแกรมคลินิกทันตกรรม FD

โปรแกรมคลินิกทันตกรรม FD ที่มีฐานผู้ใช้งานเป็นคลินิกทันตกรรมจำนวนมากในประเทศไทย จึงได้เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ FD Tablet ที่ให้คลินิกรับลงทะเบียนคนไข้ใหม่ ผ่าน Mobile ID ได้ ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง จากเดิมที่ต้องนำบัตรประชาชนมาใช้ ก็เปลี่ยนเป็นการยืนยันตัวตนผ่าน Mobile ID แทน ทำให้เกิดความสะดวก และมั่นใจได้ในความถูกต้องของข้อมูลที่จัดเก็บ

โดยอนาคตคาดว่าจะนำ Mobile ID เข้าไปสู่ขั้นตอนการใช้งานอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย เพื่อความสะดวกทั้งของคนไข้ และคลินิก

กิจกรรมอบรมสัมมนาที่จะมาถึง

ขณะนี้สำนักงาน กสทช. ร่วมกับ บริษัท นายเน็ต จำกัด ดำเนินการจัดสัมมนาเพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจ ให้กับผู้สนใจพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อเชื่อมต่อระบบ Mobile ID ขึ้น โดยมุ่งหวังให้เกิดกระแสนักพัฒนา ที่เข้าร่วมและนำไปสร้างระบบ เพื่อบริการภาคประชาชนต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้ทุกฝ่ายในสังคมได้เข้าถึง Mobile ID อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น

นักพัฒนาท่านใดที่สนใจ กรุณาสมัครได้ที่ https://mobileid-9net.paperform.co/

You may also like

The-Perspective แหล่งรวมองค์ความรู้ มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ เกาะติดข่าวสารคาดการณ์อนาคต

Tel:  081-619-9494
Email:
editor@the-perspective.co
naiyanaone@gmail.com

Total Visit:

N/A

Editors' Picks

Latest Posts

The-Perspective © All Right Reserved.

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเก็บข้อมูลและรวบรวมสถิติวิจัยทางด้านการตลาด การวิเคราะห์แนวโน้ม ตลอดจนนำมาปรับปรุง และควบคุมการทำงานของเว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอม ท่านยังสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้ปกติ ยอมรับทั้งหมด